คาดดัชนีพักฐาน

คาดดัชนีพักฐาน

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดลงแรง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ หลังจากที่นักลงทุนส่วนใหญ่ผิดหวังจากการที่ ECB ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปตามที่คาดการณ์ไว้

แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกภายในประเทศจากการที่ Moody’s ปรับมุมมองบวกต่อประเทศไทย นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยังพลิกสถานะเป็นขายสุทธิกว่า 4.3 พันลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,717.97 จุด (-12.93 จุด) Volume 5.8 หมื่นลบ. TFEX Net +5,037 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -251 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 67 เซนต์ +1.2% ปิด 56.87 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ และสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด

+ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความกดดันว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 6.0 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.855 บาท/US

+/- ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 28.90 จุด +0.11% ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา ก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด นลท.จับตารายงานผลประกอบการของแอปเปิ้ลและการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์นี้

-ปธน.ทรัมป์คาดว่าจีนอาจจะรอจนกว่าเขาชนะการเลือกตั้งปธน.สหรัฐในปี 2563 ถึงจะลงนามในข้อตกลงการค้า

สหรัฐเผย GDP Q2/2562 ชะลอตัวลงแตะ 2.1% จาก 3.1% ใน 1Q62

-อังกฤษขู่แยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง หาก EU ยังไม่ยอมผ่อนปรน

-นักลงทุนต่างชาติพลิกขายสุทธิ 4.3 พันล้านบาทเมื่อวันศุกร์

*จับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ FED ประชุมวันแรก BOJ ประชุมนโยบายการเงิน  ส่วนสศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมเฟดในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดต่างคาดการณ์ว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ สำหรับปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของหุ้นกลุ่มพลังงานที่เริ่มทยอยออกมา คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,714-1,725 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30 ORI) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (STEC CK STPI SEAFCO)  ,หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดผลประกอบการ 2Q19 เติบโตดี (VL AMA TACC JUBILE SABINA NER)

หุ้นรายงานพิเศษ

  • PTTEP (ราคาปิด 134 Bloomberg Consensus 6) รายงานผลประกอบการ 2Q62 ที่ 13,684 ล้านบาท +281%YoY และ +9.7%QoQ โดยได้แรงหนุนหลักจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 4.8%QoQ สู่ 334 พันบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากจำนวนวันปิดซ่อมบำรุงแหล่งบงกชลดลง ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยปรับตัวขึ้น 4%QoQ สู่ 48.26 $/bbl ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11%QoQ สู่ 65.25 $/bbl ขณะที่ต้นทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานราว 800 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 2.25 บาทต่อหุ้น(จ่ายปันผลเดือน ก.พ. 62 ไปแล้ว 3.25 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 4%ต่อปี) ขึ้นเครื่องหมาย (XD) วันที่ 7 ส.ค. นี้
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อ PTTEP คาดผลประกอบการ 3Q62 ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นตามปริมาณการผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6%QoQ สู่ 356 พันบาร์เรลต่อวัน โดยได้แรงหนุนจากแหล่ง Murphy ในมาเลเซียในเดือน ก.ค. 62 ขณะที่ราคาน้ำมันคาดว่าจะทรงตัวในระดับ 52-60 $/bbl เนื่องจากคาดว่าอุปทานจะลดลงจากความตึงเครียดระหว่างอังกฤษและอิหร่าน

ส่องหุ้น

             LIT        แนวรับ 5.85-5.75 บาท            แนวต้าน 6.00 , 6.15 บาท

             BPP       แนวรับ 22.30 บาท                   แนวต้าน 22.80 , 23.10-23.20 บาท

             IHL       แนวรับ 5.30 บาท                     แนวต้าน 5.45 , 5.60 , 5.80 บาท

หุ้นมีข่าว   

·      GPSC (ราคาปิด 70.75 Bloomberg Consensus 72.75) ประกาศเพิ่มทุน 1.32 พันล้านหุ้นที่ราคาพาร์ 10 บาท โดยมีอัตราส่วนเพิ่มทุน 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 0.8819 หุ้นเพิ่มทุนที่ราคา 56 บาท (อิงราคาย้อนหลัง 30 วันและให้ส่วนลด 20%) ขึ้นเครื่องหมาย XR วันที่ 4 ก.ย. 62

ความเห็น เรามีมุมมองบวกระยะยาวต่อการเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ GPSC ได้ประกาศไว้ส่งผลให้งบดุลแข็งแกร่งขึ้นหลังมีการเพิ่มทุน แม้ว่าในระยะสั้นจะมีผลลบจากการ Diluted ราว 47% ของจำนวนหุ้น แต่ในระยะยาวจะช่วยหนุนกำไรเนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงอีกทั้งสามารถมี Synergy ระหว่าง GLOW และ GPSC ในอนาคต

·      BEM (ราคาปิด 10.60 บาท Bloomberg Consensus 11.77 บาท) ทดลองเดินรถส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-หลักสองวันแรก ประชาชนแห่ใช้บริการคับคั่ง “เอ็มดี” คาดช่วงทดสอบ 2 เดือน มีผู้โดยสารใหม่ 32,000 คนต่อวัน โดย 70% วิ่งต่อเข้าระบบใต้ดิน ขณะที่ “ศักดิ์สยาม”  ยันลดค่าโดยสารแน่นอน นำร่องสายสีม่วง-เรลลิงก์ภายในปีนี้ ส่วนที่มีสัมปทานร่วมทุนต้องศึกษาให้รอบคอบก่อน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ILM เดินหน้านำเงินระดมทุนขยายธุรกิจตามแผน เล็งเปิดร้าน Index Living Mall เพิ่มอีก 3 สาขา และเตรียมเปิดร้าน Winner Furniture Center สาขาแรกที่ จ.ราชบุรี ในเดือน ก.ย.นี้ พร้อมอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      RATCH (ราคาปิด 67.75 บาท Bloomberg Consensus 67.94 บาท) ทุ่ม 53.31 ล้านเหรียญออสเตรเลีย เข้าซื้อหุ้น 70% ในโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yandin กำลังการผลิต 214 MW ในออสเตรเลีย ฟาก ผบห.ปัดปมเร่งเข็น RATCH เซ็นสัญญา PPA กับกฟผ. ชี้เป็นไปตามขั้นตอนแผนพีดีพี 2018 เตรียมพร้อมลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซ 220-240 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน กับปตท.สัปดาห์หน้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      ORI (ราคาปิด 9.35 บาท Bloomberg Consensus 10.09 บาท) รุกขยายตลาดต่างประเทศ ดึง “DWG Thailand” มาเป็นตัวแทนขายคอนโดมิเนียมใน 10 ประเทศ หวังดันยอดขายลูกค้าต่างชาติปีนี้พุ่ง 5,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของเป้ายอดขายปีนี้ 28,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      CENTEL (ราคาปิด 34.25 บาท Bloomberg Consensus 41.22 บาท) ยิ้มรับนักท่องเที่ยวอินเดีย-ญี่ปุ่น-เกาหลี-ลาว-เวียดนาม เพิ่มขึ้น ทดแทนนักท่องเที่ยวจีนหดลุ้นภาครัฐหามาตรการกระตุ้นต่อเนื่องอีกทั้งปัจจัยบวกการจัดที่ประชุมแทนฮ่องกงจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ เตรียมเปิดตัวโรงแรมใหม่รับไฮซีซันครึ่งปีหลัง (ที่มา ทันหุ้น)

·      SELIC ชี้ธุรกิจออนไลน์หนุนยอดขายสติ๊กเกอร์เพิ่มขึ้น มองทิศทางไตรมาส 3/62 โตต่อ ใส่เกียร์เดินหน้าขายสินค้าทั้งใน-ต่างแดน ลุยเซ็กเตอร์ใหม่ เจาะฐานออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มั่นใจรายได้ปีนี้ทำสถิติ หรือไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·      ROBINS (ราคาปิด 60.25) แจ้งตลท.ถึงการปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลีของบจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 53.83% และมีแผนจะระดมทุนผ่าน IPO โดยมีแผนเพิกถอนบริษัทออกจากตลาดฯเพื่อให้มีเพียงบริษัทเดียวที่จดทะเบียนในตลาดฯและเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทราคาหุ้นละ 66.50 บาท โดยจะจ่ายชำระค่าหุ้นเป็นหุ้น IPO ของ CRC ในอนาคต กำหนดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 5 ก.ย. Record date 13 ส.ค.

ความเห็น ราคาเสนอซื้อสูงกว่าราคาปิดล่าสุด หากนักลงทุนต้องการหุ้น IPO ของ CRC สามารถซื้อหุ้น ROBINS ได้เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นหุ้นของ CRC ในอนาคตเนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ mkt. cap สูง ปี 61 มีรายได้รวม 3,034 ล้านบาท กำไรสุทธิ 66 ล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องระยะเวลาในการปรับโครงสร้างและการ IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

·      HMPRO (ราคาปิด 17.20 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 17.51) แจ้ง 2Q62 มีกำไรสุทธิ 1,527 ล้านบาท +16% เนื่องจากรายได้รวม +6.7% จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและเปิดสาขาใหม่จรัลสนิทวงศ์ รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 14% กำไรขั้นต้น +8% งวด 1H62 มีกำไรสุทธิ 2,946 ล้านบาท +15%