รมช.ศธ.ผุดไอเดียอิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค แทนเด็กแบกหนังสือหลังโก่ง

รมช.ศธ.ผุดไอเดียอิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค แทนเด็กแบกหนังสือหลังโก่ง

"คุณหญิงกัลยา" รมช.ศึกษาฯ ผุดไอเดียอิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค แทนเด็กแบกหนังสือหลังโก่ง ชี้จัดวันพ่อ-แม่ดูความเหมาะสม แก้ปัญหาเด็กกำพร้า

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในจังหวัดขอนแก่น มีอาการป่วยกระดูกสันหลังคดงอ โดยมีการเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากต้องสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากไปโรงเรียนทุกวันจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ว่า คงต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์บุ๊คมากขึ้น เพื่อให้เด็กไม่ต้องแบกหนังสือไปโรงเรียน ซึ่งวิธีนี้เป็นทางออกที่ตรงที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเพิ่งจะเป็นข่าวได้ไม่นาน แต่เรามีแนวความคิดอยู่แล้วว่าจะให้มีอิเล็คทรอนิกส์บุ๊คมากขึ้น โดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือลงโทรศัพท์มือถือได้

เมื่อถามว่าได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอาการดังกล่าวหรือไม่ เพราะหมอไม่ได้มีการวินิจฉัย แต่เป็นการสันนิษฐานของแม่เด็กนักเรียน คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้แต่ก็มีส่วน เช่น เด็กที่ใช้มือถือวันละ 7-10 ชั่วโมง นอกจากต้องใช้สายตาแล้วยังต้องแบกศีรษะของตัวเอง เพราะเมื่อเราก้มหน้ามากร่างกายก็ต้องแบกศีรษะทำให้กระทบกระเทือนต่อสุขภาพขึ้นมาเพื่อรับน้ำหนัก ซึ่งร่างกายของเราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้รับน้ำหนักตรงนี้โดยธรรมชาติ ส่วนโรงเรียนในชนบทให้เด็กนำหนังสือไปโรงเรียนในทุกวิชาทั้งที่บางเล่มก็ไม่ได้ใช้เรียนนั้น เราให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของนักเรียนอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้วเราคงไม่นิ่งนอนใจ
เมื่อถามย้ำว่าจะดำเนินการตรวจสอบโรงเรียนที่บังคับขายกระเป๋าให้กับนักเรียนหรือไม่ คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า เรื่องนี้เราจะเข้าไปศึกษาดู

เมื่อถามอีกว่าโลกโซเชียลมีเดียเรียกร้องให้ยกเลิกการพาผู้ปกครองไปร่วมกิจกรรมของโรงเรียนในวันพ่อและวันแม่ เนื่องจากมีเด็กนักเรียนบางคนเป็นเด็กกำพร้า คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตามประเพณีไทยเราต้องเคารพพ่อและแม่อยู่แล้ว ในวันหนึ่งของปีหนึ่งใครๆก็อยากแสดงออก แต่ประเพณีที่ดีงามเช่นนี้บางครั้งอาจไม่เข้ากับเด็กสมัยใหม่ แต่ก็เป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่ดี ดังนั้นจึงต้องหาจุดที่ดีและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากพ่อและแม่ไม่ว่างก็ไม่จำเป็นต้องพาไป เพราะการแสดงออกมีหลายรูปแบบ