เร่งช่วย 'นักธุรกิจไทย' ถูกจับเรียกค่าไถ่ในฝั่งลาว 5 ล้าน

เร่งช่วย 'นักธุรกิจไทย' ถูกจับเรียกค่าไถ่ในฝั่งลาว 5 ล้าน

เร่งช่วยเหลือ! ประธานสมาคมส่งออกฯ เชียงแสน ถูกจับเรียกค่าไถ่ในฝั่งลาว 5 ล้าน

หน่วยงานความมั่นคงและ จ.เชียงราย ได้เร่งติดตามช่วยเหลือนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน หลังจากได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้มีการส่งคลิป และข้อความจากกลุ่มคนร้ายว่านายสิงห์แก้วได้ถูกจับกุมตัวอยู่ในฝั่ง ส.ป.ป.ลาว ให้ญาติหนำเงินไปไถ่ตัวจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว

สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาหลังจากนายสิงห์แก้วได้เดินทางออกจากประเทศไทยผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อข้ามไปยังฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ส.ป.ป.ลาว แต่ไม่ได้เดินทางกลับมาตามปกติ ลูกสาวจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่านายสิงห์แก้วได้หายตัวไป และได้รับข้อความและคลิปวิดิโอมาให้ เป็นภาพของนายสิงห์แก้วสภาพ ต้นขวาขวามีรอยเลือดติดอยู่ที่กางเกง รวมทั้งมีการใช้อาวุธปืนสั้นจี้ที่ศีรษะ มีข้อความให้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีของนายอนันต์ฉาย ระบุว่าเป็นบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ล่าสุดนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ทางนายอำเภอเชียงแสน ร่วมกับทางหน่วยงานความมั่นคง ได้ติดตามความคืบหน้าโดยพยายามติดต่อกับกลุ่มผู้ที่จับกุมตัวนายสิงห์แก้วเพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือ

สำหรับนายสิงห์แก้ว พบว่าได้ทำการค้าขายกับพ่อค้าชาวจีนด้วยการส่งออก โค กระบือ และสุกร รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคเช่น น้ำตาล มีรายงานว่ามีการตกลงทางการค้ากันแล้วไม่สามารถจัดหาสินค้าไปส่งให้ได้ทันเวลาที่กำหนด ทำให้กลุ่มชาวจีนเรียกไปเจรจาหารือเพื่อหาทางออกในฝั่ง ส.ป.ป.ลาว ทำให้นายสิงห์แก้วถูกทำร้ายแล้วเรียกค่าไถ่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวน รวมทั้งประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้สืบหาข้อมูลที่แท้จริงและหาทางช่วยเหลือนักธุรกิจไทยรายนี้กลับมา