“ไลน์” ประกาศหั่นราคาบริการออฟฟิศเชียลแอคเค้าท์ รับต้นทุนลูกค้าพุ่ง ล่าสุดโชว์วิสัยทัศน์ใหม่ “ไลฟ์ ออน ไลน์” มุ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชีวิตดิจิทัล ชู 3 กลยุทธ์ หลอมรวมออนไลน์กับออฟไลน์ ดึงเอไอเสริมแกร่ง พร้อมจับมือธนาคารกสิกรไทยโหมหนักฟินเทค
จากกรณีที่ “ไลน์” รวมบริการ ไลน์แอท และ ออฟฟิศเชียลแอคเค้าท์เข้าด้วยกัน และประกาศการคิดค่าบริการแบบใหม่ในส่วนของไลน์ออฟฟิศเชียลแอคเค้าท์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะภาคธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นมาก ล่าสุดภายในงาน LINE CONVERGE THAILAND 2019 ทางไลน์ได้ประกาศปรับราคาลงภาายใต้แพ็คเกจใหม่
นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า ไลน์ ประเทศไทย ได้ปรับโครงสร้างราคาค่าบริการออฟฟิศเชียลแอคเค้าท์ใหม่ในทุกแพ็คเกจ สำหรับแพ็คเกจเบสิค เดือนละ 1,200 บาท ส่งได้ 15,000 ข้อความ หรือ 0.08 บาทต่อข้อความ แม้ว่าจะมีราคาจะเพิ่มขึ้นจาก 500 บาทต่อเดือน เป็น 1,200 บาท แต่จำนวนข้อความได้เพิ่มจาก 2,500 เป็น 15,000 ข้อความ ส่วนข้อความที่เกินไปจากที่กำหนดได้ปรับจาก 0.3 บาท เป็น 0.08 บาทต่อข้อความ
ยอมปรับราคาลง
ด้านแพ็คเกจโปรราคา 1,500 บาทต่อเดือน ส่งได้ 35,000 ข้อความ หรือ 0.04 บาทต่อข้อความ เป็นราคาเท่าเดิมแต่จำนวนข้อความได้เพิ่มจาก 10,000 เป็น 35,000 ข้อความ และราคาต่อข้อความที่เกินจากข้อความที่กำหนดได้ปรับจากเริ่มต้น 0.1 บาท เป็น 0.04 บาทต่อข้อความ
สำหรับคอร์ปอเรทที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน คิดในอัตรา 0.01 บาทต่อข้อความ ขณะที่ “Free Plan” สำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ หรือ บางธุรกิจที่เน้นให้ข้อมูลข่าวสารหรือองค์กรไม่แสวงกำไร จากเดิมให้ส่งฟรี 500 ข้อความต่อเดือน เพิ่มให้เป็น 1,000 ข้อความต่อเดือน มีผลตั้งแต่เดือนส.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนจากนี้จะปรับลดราคาลงอีกหรือไม่ขอดูผลกระทบและผลตอบรับของตลาดก่อน ราคาใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป
เขากล่าวว่า การคิดราคาค่าบริการดังกล่าวปรับเปลี่ยน โดยพิจารณาถึงการเข้ามามีส่วนร่วมของผู้ติดตาม และจำนวนการส่งข้อความโดยเฉลี่ย ประกอบกับหลังจากที่รวมธุรกิจ ไลน์แอด(LINE@) และ ออฟฟิศเชียลแอคเค้าท์และมีการปรับราคาซึ่งมีเสียงสะท้อนมาว่าแพงเกินไป จึงเป็นที่มาของการลดราคาลงมาเหลือเริ่มต้นเพียง 0.04 บาทต่อข้อความ ไลน์คาดว่าการปรับราคาครั้งนี้จะไม่กระทบกับรายได้ และจะยิ่งทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
“ไลน์รับฟังและรับทราบถึงทุกเสียงสะท้อนของราคาที่ถูกมองว่าแพงเกินไป ไม่สมเหตุสมผล หรือบางธุรกิจ เช่น สื่อมีเป้าหมายการส่งข้อความเพื่อให้ข้อมูล ดังนั้นจะคิดเงินแบบที่คิดนักธุรกิจไม่ได้ ดังนั้นจึงมีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการ การใช้งานจริง และการใช้งานของธุรกิจที่แตกต่างกันมากขึ้น”
ก่อนหน้านี้ไลน์แอดคิดค่าบริการเป็นรายเดือนโดยไม่จำกัดจำนวน ส่งผลทำให้มีการส่งข้อความมากเกินไปจนทำให้ผู้บริโภคเกิดความรำคาญ ดังนั้นเป็นที่มาของการ “รีดีไซน์” คิดใหม่ทำใหม่ โดยมองว่าโมเดลที่เหมาะสมคือ “เพย์ เปอร์ ยูส” เพื่อให้ส่งเฉพาะสิ่งที่จำเป็น จากสถิติโดยปกติออฟฟิเชียลแอคเค้าท์ในไทยมีแอคทีฟยูสเซอร์ประมาณ 1,100 คน มีการส่งข้อความ 10 บรอดแคสต์ต่อเดือน
ไลน์เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่มีผู้ใช้งานมากกว่าโซเชียลแพลตฟอร์มอื่นๆ 3 เท่า สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง นอกจากใช้บ่อย ยังเชื่อมทุกคนเข้าหากัน ปัจจุบันจำนวนออฟฟิศเชียลแอคเคาท์มีอยู่กว่า 3 ล้านบัญชี ปัจจุบันรวมธุรกิจออฟฟิศเชียลแอคเค้าท์และโฆษณาสร้างสัดส่วนรายได้กว่า 60% ให้กับไลน์
ล่าสุด เปิดตัวบริการใหม่ “ไลน์ ไอดอล(LINE IDOL)” ช่องทางการสื่อสารสำหรับกลุ่มศิลปิน ดารา และคนดัง เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับแฟนคลับอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มหมวดหมู่ “Business” ที่เหมาะสำหรับธุรกิจสื่อโดยเฉพาะ หากสนใจสามารถติดต่อเข้ามาได้
มุ่ง ‘อินฟราฯ’ชีวิตดิจิทัล
นางอึนจอง ลี รองประธานกรรมการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลก ไลน์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจของไลน์ประเทศไทยจากนี้มุ่งทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “Life on LINE” มีเป้าหมายที่จะทำให้แพลตฟอร์มของไลน์กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานชีวต” สำหรับผู้ใช้งานทุกคน
ทั้งนี้ 3 กลยุทธ์ใหม่ ประกอบด้วย 1.OMO (Online-merge-Offine) การรวมกันของออนไลน์กับออฟไลน์ โดยจะคล้ายกับโอทูโอแต่เป็นการรวมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ล่าสุดนี้ยังได้เปิดตัว “ไลน์ มินิแอพ LINE Mini App” ระบบที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้บริการจากแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ผ่านไลน์ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องออกจากแอพไลน์
กลยุทธ์ที่สอง “ฟินเทค” ต่อยอดจากการให้บริการโดยแรบบิท-ไลน์ เพย์ โดยล่าสุดร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย เพื่อปฏิวัติการบริการทางการเงิน ภายใต้ความร่วมมือใหม่ในนาม “KASIKORN LINE”
ขณะที่ กลยุทธ์สุดท้าย นำ “ปัญญาประดิษฐ์(เอไอ)” เข้ามาช่วยยกระดับการใช้งาน จากนี้จะเดินหน้าพัฒนาเอไอขั้นสูงเพื่อนำไปใช้ในการบริการที่หลากหลาย เช่น ฟีเจอร์สำหรับการแนะนำบริการแบบเฉพาะบุคคลในการค้นหาการใช้บริการ LINE TV, Sticker Shop, โฆษณา และอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Smart Channel ที่เรียนรู้จากพฤติกรรมความสนใจของผู้ใช้ไปสู่การนำเสนอข้อมูลที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง
“ไลน์เป็นมากกว่าแอพแชท ครอบคลุมทั้งคอนเทนท์ บันเทิง โอทูโอ และฟินเทค ก้าวต่อไปจะทรานส์ฟอร์มคอมมูนิตี้ลูกค้ากว่า 44 ล้านคน ให้ได้รับความสะดวก ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ไฮไลต์ครึ่งปีหลังนี้บริการใหม่ที่เตรียมทยอยออกสู่ตลาดมีทั้ง LINE Mini app, LINE Shopping, LINE MAN GROCERY, LINE Melody และ Smart Channel เชื่อว่าทั้ง 3 กลยุทธ์จะสามารถช่วยแก้ไขเพนพอยต์ของผู้ใช้งานได้”
ไลนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมาแล้ว 6 ปี ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำกว่า 44 ล้านรายต่อเดือน ครองอันดับ 1 แพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด หรือคิดเป็น 78% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ในจำนวนนี้เป็นเพศชาน 53% เพศหญิง 47% สถิติพบด้วยว่าคนไทยใช้งานไลน์สูงถึง 26 วันต่อเดือน มีอัตราการเปิดใช้งานสูงถึง 93%
จุดพลุ 4 บริการใหม่
นายพิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์ ประเทศไทย คนใหม่ กล่าวว่า ไลน์ต้องการเป็นบิสิเนสโซลูชั่นสำหรับธุรกิจและหน่วยงานราชการ ล่าสุด เปิดตัวบริการและนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจในประเทศไทยโดยเฉพาะ 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1.ไลน์ ชอปปิง(LINE Shopping) บริการรูปแบบใหม่สำหรับเปรียบเทียบราคาสินค้าบนอีคอมเมิร์ซและมีการรวมแหล่งออนไลน์ชอปปิงไว้ในที่เดียว
บริการดังกล่าวออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของลูกค้าด้านการเข้าถึงข้อมูล ช่วยให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์เด่นเช่น โปรโมชั่น, คะแนนสะสม, การตั้งรายการสินค้าที่ต้องการซื้อ(wish list), การแจ้งเตือนเมื่อสินค้านั้นๆ ลดราคา ฯลฯ
นอกจากนี้ 2.ไลน์แมน มีแผนรุกขยายการบริการให้ครอบคลุมพื้นที่หัวเมืองใหญ่ โดยร่วมมือเป็นพันธมิตรกับวงใน ลาลามูฟ 3.LINE MAN GROCERY บริการซื้อของใช้ในบ้านจากไลน์แมน บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้ใช้ พื้นที่บริการ การทำงานร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งมีการนำบิ๊กดาต้ามาปรับใช้ และจะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง
ขณะที่ 4.ไลน์ เมโลดี้(LINE MELODY) บริการเสียงรอสายและเสียงเรียกเข้าบนไลน์คอลล์(LINE Call) ขณะนี้ผู้ใช้งานไลน์กว่า 50% ใช้งานไลน์คอลล์ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนส.ค.นี้