ยธ.ช่วยเหลือครอบครัวดญ.14ปี เหยื่ออดีตครูปืนโหด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25ก.ค.62 นายทวีศักดิ์ สารทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.ขอนแก่น และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าพบนางสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ยายของ ด.ญ.วัย 14 ปี ที่ถูกอดีตข้าราชการครูวัย 60 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงเสียชีวิตก่อนจะยิงตัวเองตายตามภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เหตุเกิดในช่วงค่ำของวันที่23 ก.ค.62 ที่ผ่านมา

โดยวันนี้ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้แจ้งสิทธิให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่เกิดจากคดีอาชญากรรมได้รับทราบ เพื่อทำเรื่องขอค่าชดเชยเยียวยาตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรม พร้อมให้ยายของผู้เสียชีวิตกรอกคำร้อง ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน เพื่อร่วมกันพิจารณาอนุมัติ ก่อนจะส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรม

ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การเข้ามารับเรื่องและแจ้งสิทธิให้กับครอบครัวของ ด.ญ.วัย 14 ปี ที่เสียชีวิต เป็นมาตรการเชิงรุกที่ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในคดีอาชญากรรม ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับ ด.ญ.วัย 14 ปี ซึ่งถูกผู้อื่นทำให้เสียชีวิต อยู่ในเงื่อนไขที่กระทรวงยุติธรรมจะให้การช่วยเหลือ เป็นเงินเยียวยา จำนวน110,000 บาทโดยหลังจากที่รับเรื่องจากยายของผู้เสียชีวิตแล้ว ก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมระดับจังหวัด และส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่ออนุมัติเงินโอนเข้าบัญชีของผู้ที่ดูแลเลี้ยงดู ด.ญ.วัย 14 ปี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน

ด้านนายสุขสันต์ ชาติทาอง อายุ 36 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า การจากไปของลูกสาวเป็นสิ่งที่เร็วเกินกว่าที่ตนเองและญาติพี่น้องจะรับได้ เพราะผู้ก่อเหตุลงมืออย่างโหดเหี้ยม ที่ผ่านมาแม้ว่าตนเองและอดีตภรรยาจะแยกทางกัน แต่ตนเองและลูกสาวก็โทรศัพท์พูดคุยกันอยู่เสมอ ซึ่งทุกครั้งที่คุยกันตนก็คอยถามลูกเสมอว่า ต้องการอะไรไหม มีปัญหาอะไรไม่สบายใจหรือไม่ แต่ลูกสาวก็ไม่เคยเล่าเรื่องทุกข์ใจ รวมทั้งเรื่องการคบหากับอดีตข้าราชการคนนี้ให้ฟัง โดยครั้งสุดท้ายก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต ลูกสาวยังได้โทรศัพท์มาอวยพรวันเกิดตนเองเมื่อวันที่21ก.ค.62ที่ผ่านมา โดยอวยพรให้ตนเองสุขภาพแข็งแรง กระทั้งช่วงเย็นของวันที่23ก.ค.ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ จู่ๆ ตนเองก็รู้สึกกระวนกระวายใจถึงลูกสาว จึงโทรศัพท์ไปหาแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ทำให้ให้ตนรู้สึกใจหวิวๆ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่แล้วช่วง03.00 น.ของวันที่24 ก.ค.เบอร์โทรของลูกสาวก็โทรกลับมา เมื่อรับสายก็ทำให้ตนแทบช็อคก็เสียงปลายสายที่โทรมาบอกว่า ลูกสาวของตนเองเสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนเองและครอบครัวก็จะเดินเรื่องเอาผิดกับฝ่ายผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ทั้งในทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งในทางกฎหมายแล้วสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับทายาทของผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นการฌาปนกิจส่งดวงวิญญาณลูกสาวในวันศุกร์ที่26ก.ค.นี้แล้วจึงจะหารือกันอีกครั้งกับทางครอบครัวและญาติพี่น้อง