แกว่งตัว ติดตามการประชุม

แกว่งตัว ติดตามการประชุม

คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อ/ขายเพื่อติดตาม 3 การประชุมสำคัญ

ลาดหุ้นวานนี้: SET Index แกว่งตัวบวกเล็กน้อย +0.57 จุด (+0.03%) ปิดที่ระดับ 1,725 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจากสถานการณ์ Trade war ที่มีความคืบหน้าหลังสหรัฐจะเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามความกังวล IMF เตือนเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในช่วงขาลงส่งผลให้มีแรงขายกดดันดัชนี ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 58 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX จำนวน 2,949 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 868 ล้านบาท 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,715 – 1,735 จุด เนื่องจากคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อ/ขายเพื่อติดตาม 3 การประชุมสำคัญ ได้แก่ การประชุม ECB ในวันนี้ที่คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือใช้มาตรการ QE ในช่วงถัดไป รวมถึงการเริ่มแถลงนโยบายของรัฐบาลเป็นวันแรกโดยเน้นนโยบายสำคัญด้านดูแลความเป็นอยู่ประชาชนและการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายประเทศที่ชะลอตัว นอกจากนี้สัปดาห์หน้าจะมีการประชุม FED ในวันที่ 30 – 31 ก.ค.ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ภาวะตลาดจะเป็นลักษณะเลือกเล่นรายตัวที่มีปัจจัยบวกโดยเฉพาะกลุ่มที่งบ 2Q19 เติบโต

(วันนี้ PTTEP จะประกาศงบ 2Q19 ซึ่งคาดว่ามีกำไรสุทธิที่ 12,555 ล้านบาท +1%qoq และ +250%yoy)

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q19 จะเติบโตขึ้น (PTTEP, EA, BGRIM, GPSC, CKP, CPF, GFPT, TFG, CPALL, MTC, THANI, VGI, PLANB, MINT, VNT, WORK, MAJOR, JMT, PRM)
  • หุ้นปันผลครึ่งปีเด่น (INTUCH, ADVANC, KKP, TCAP, LH, QH)

หุ้นแนะนำวันนี้: VNT (ปิด 25.50 ซื้อ เป้า 29 บาท) คาดเป็นหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีที่คาดว่างบ 2Q19 จะออกมาโดดเด่นที่สุดของกลุ่ม จากผลบวกของ Spread PVC ที่เพิ่มขึ้นหลังจากต้นทุนซึ่งเป็น Ethylene ลดลงตามตลาดปิโตรฯ ขณะที่ราคา Caustic Soda ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์หลักราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากอินเดียกลับมานำเข้าอีกครั้งเช่นเดียวกับโรงอะลูมิเนียมรายใหญ่ของบราซิลที่กลับมาผลิตสั่งซื้อมากขึ้น AMATA (ปิด 24.2 ซื้อ/เป้า Consensus 26.5 บาท) ได้ Sentiment บวกจากภาพการเมืองที่ชัดเจนรัฐบาลใหม่เตรียมแถลงนโยบายในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. คาดเดินหน้า EEC ต่อ ขณะเดียวกันสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังหนุนให้เกิดเงินทุนเคลื่อนย้ายจากจีนมาไทยเพื่อเลี่ยงปัญหา Trade war มากขึ้น

KSS report วันนี้: Thailand Strategy (สัญญาใดที่บ่งบอกถึงเศรษฐกิจขาลง)

ประเด็นสำคัญวันนี้:          

  • (+) รัฐบาลแถลงนโยบายวันนี้คาดเน้นแก้ปัญหาเร่งด่วนด้านปากท้อง ลดค่าครองชีพ และแก้ปัญหาภัยแล้ง: เบื้องต้นเราคาดว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันนี้จะเป็นแนวทางแบบกว้างๆเ พื่อเป็นกรอบในการบริหารประเทศ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สวัสดิการผู้สูงอายุ นโยบายประกันสินค้าเกษตร และนโยบายต่อเนื่อง อาทิ EEC Project และ Mega Project อย่างไรก็ตามระยะสั้นเราคาดว่าภาครัฐจะมุ่งเน้นนโยบายไปที่ปัญหาเร่งด่วนซึ่งเกี่ยวกับปากท้องของประชาชน อาทิ การลดค่าครองชีพ เพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการ รวมไปถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งมากกว่า ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก Top pick CPALL และ GLOBAL ส่วนนโยบายต่อเนื่องในระยะกลางถึงยาว คือ EEC Project และ Mega Project จะส่งผลบวกต่อกลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA, ROJNA) และกลุ่มรับเหมาฯ (CK, STEC, และ STPI)
  • (+) PTTEP ประกาศงบ 2Q19 วันนี้ คาดแจ้งกำไรสุทธิโดดเด่นที่สุดของกลุ่มปตท.เรายังเลือกเป็น Top pick ของหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน: PTTEP มีกำหนดประกาศงบ 2Q19 ในช่วงปิดตลาดเที่ยงของวันนี้ เบื้องต้นเราคาดว่า PTTEP จะมีกำไรสุทธิประมาณ 12,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1%qoq และ 250%yoy นับเป็นผลกำไรที่โดดเด่นที่สุดของกลุ่มปตท. ได้แรงหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นหลังจากแหล่งบงกชซึ่ งหยุดซ่อมบำรุงในช่วงปลาย 4Q18 ถึงต้น 1Q19 กลับมาทำการผลิตเต็มไตรมาสใน 2Q19 ด้านราคาขายปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบดูไบที่กลับมาฟื้นตัว ตรงกันข้ามกับกลุ่มบริษัทในเครือ ปตท. (โรงกลั่น&ปิโตรฯ) คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 2Q19 หดตัวทั้ง qoq และ yoy จากค่าการกลั่นหดตัว ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรฯลดลงตามเศรษฐกิจโลก และมีการบันทึกขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบ ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดกำไรของ PTTEP ยังโตต่อเนื่อง เพราะจะเริ่มรับรู้รายได้และปริมาณขายจากแหล่งเมอร์ฟีที่ PTTEP เข้าซื้อกิจการในช่วง 1H19 และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 3Q19 เป็นต้นไป โดยปีนี้เราคาด PTTEP จะมีกำไรสุทธิประมาณ 43,510 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 20%yoy
  • (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม - เย็นนี้ ECB meeting และ 26 ก.ค.สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 2/19:  เบื้องต้นเราคาดการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของยุโรป (ECB) ในช่วงเย็นวันนี้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ตามเดิม ส่วนหนึ่งเพื่อรอดูท่าทีของเฟดที่จะมีการประชุมในช่วงวันที่ 30-31 ก.ค. แต่คาดว่าในถ้อยแถลงหลังการประชุมคาดว่า ECB อาจจะส่งสัญญาณถึงการลดอัตราดอกเบี้ยและการนำ QE กลับมาใช้ในการประชุมที่จะมีขึ้นครั้งถัดไปในวันที่ 12 เดือน ก.ย. ส่วนวันพรุ่งนี้สหรัฐจะประกาศ GDP ไตรมาส 2/19 Consensus คาดขยายตัว 1.8% หดตัวลงจาก ไตรมาส 1/19 ที่ขยายตัว 3.1% หากตัวเลขยังออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดอาจจะทำให้ตลาดคาดหวังหรือหนุนให้ Fed ลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.5% ก็ได้