แถลงนโยบายส่อลากยาว3วัน นายกฯชี้วิถีการเมือง ไม่กังวลฝ่ายค้านซักฟอก พปชร.จัดองครักษ์ 7 กลุ่มป้องนายกฯ-รมต. ฝ่ายค้าน พุ่งเป้าชำแหละ 12 นโยบายรัฐบาล ล็อกเป้าเศรษฐกิจปากท้องประกันรายได้-ค่าแรงขั้นต่ำ
ความเคลื่อนไหวการเตรียมความพร้อมการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ (25 ก.ค.) เป็นวันแรก วานนี้ (24 ก.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีมีการเสนอให้เพิ่มวันประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อเป็นวันที่ 25-27 ก.ค.ว่า จากการประชุมร่วม 3 ฝ่ายล่าสุดฝ่ายค้านไม่ติดใจในประเด็นเวลาที่ได้รับ คือ 13 ชั่วโมง และตัวแทนฝ่ายค้านพอใจตามเวลาที่ได้รับดังกล่าว
ทั้งนี้ในการประชุมวิปยังพิจารณาถึงประเด็นที่ฝ่ายรัฐบาล ได้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงที่อาจน้อยไป ซึ่งได้พูดคุยด้วยว่าหากจะอนุโลมให้รัฐบาลได้รับเวลาเพิ่มเติม 1-2 ชั่วโมง ได้หรือไม่ทั้งนี้ตนพร้อมทำหน้าที่ควบคุมการประชุมให้เป็นไปเรียบร้อยและลดการประท้วง หรือใช้เวลาประท้วงให้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ดี การขยายวันประชุมเป็นไปได้ แต่ที่กำหนดในวาระเพียง 2 วันนั้นเป็นไปตามปกติที่ต้องกำหนดวาระประชุม
ส่วนความเคลื่อนไหวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายคุณสมบัติรวมถึงนโยบายรัฐบาลว่า ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นวิถีทางทางการเมือง ขอให้เข้าใจเป็นนายกฯใหม่และรัฐบาลใหม่หลังจากแถลงนโยบายรัฐบาลแล้วจะมาทำงานร่วมกันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เอาเรื่องทั้งหมดมาปรึกษาหารือกัน รัฐบาลต้องทำต่อไปในทุกมิติทั้ง 19 กระทรวง มีรองนายกฯกำกับดูแล ทั้งหมดมีกฎเกณฑ์อยู่แล้วไม่ว่าจะการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งเป้าอภิปรายตัวนายกฯและรัฐมนตรี ได้คุยกับคณะรัฐมนตรีมีหลายเรื่อง ทั้งการศึกษา คมนาคม ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป จะดำเนินการตามที่ได้คุยไว้แล้ว ฉะนั้นมันอยู่ในแผนบริหารราชการ โครงการงบประมาณก็ทำให้สอดคล้องกันตามที่ได้มีการหาเสียงไว้ ก็เดินหน้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนทีมองครักษ์พิทักนายกฯ ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมไว้นายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่ได้เป็นคนจัดทีมองครักษ์ เป็นเรื่องที่ทุกคนช่วยกัน ไม่ใช่ช่วยผมแต่เป็นการช่วยรัฐบาลให้ทำงานต่อไปได้”
ลุ้น“ประยุทธ์”นั่งผู้นำพปชร.
อย่างไรก็ดี สำหรับการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร.เรื่องนี้ยังไม่คิด ให้ผ่านตรงนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน
มีรายงานว่า ขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เขียนใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพปชร.แล้ว โดยมอบหมายให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำพรรค นำไปยื่นสมัครแบบตลอดชีพ พร้อมกับจ่ายค่าสมัคร 2,000 บาท ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคในเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้ และเป็นไปได้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคพปชร.เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรค
นอกจากนี้พรรคอาจจะมีการปรับทัพครั้งใหญ่ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็จะสมัครเป็นสมาชิกและคาดว่าจะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรค ขยับขึ้นไปเป็นที่ปรึกษาพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรค ไปเป็นรองหัวหน้าพรรค ส่วนนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรคพปชร. จะมารับหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรค
จัดองครักษ์7กลุ่มป้องนายกฯ-รมต.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมคงไม่ตกเป็นเป้าหมายในการอภิปรายของฝ่ายค้าน เพราะทราบว่ามีรัฐมนตรีที่ตกเป็นเป้าอยู่แล้ว แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมได้เตรียมความพร้อมข้อมูลในด้านนโยบายอำนวยความสะดวกเพื่อเข้าถึงความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาและไม่หนักใจ
ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายคุณสมบัติกลุ่ม “3ป.” มองว่า รัฐมนตรีแต่ละท่านทำงานในภารกิจที่รับผิดชอบมานานถึง 5 ปี เชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้ นอกจากนี้พปชร.ยังได้เตรียมองครักษ์เพื่อช่วยนายกฯตอบคำถามไว้ 6-7 กลุ่ม จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาและสามารถชี้แจงทุกประเด็น
นอกจากนี้ กรณีที่ฝ่ายค้านจะขุดเรื่องเก่าๆในอดีตขึ้นมาอภิปรายนั้น เป็นเรื่องปกติ เพราะเรื่องใหม่หรือนโยบายรัฐบาลนั้น ฝ่ายค้านยังไม่มีเวลาได้อ่านและศึกษาเพียงพอเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนจะสามารถตอบคำถามได้
“จุรินทร์”พร้อมแจงนโยบายเกษตร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยเราต้องเตรียมตัวทุกอย่าง เท่าที่ทราบพรรคได้เวลาทั้งหมด 59 นาที ซึ่งได้เตรียมคนที่เหมาะสมในการแถลงนโยบายไว้แล้ว ซึ่งเราต้องเป็นทีมเวิร์ค
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าในส่วนของพรรคได้มีการตัดทอนจำนวน ส.ส.ที่ต้องการอภิปรายในสภาเหลือเพียง 10 คน ส่วนการเตรียมความพร้อมเรื่องนโยบายการแก้ไขปัญหาเกษตรกรนั้น ก็ได้มีการบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่หากมีข้อสงสัยพรรคพร้อมอธิบายเพิ่มเติมได้ เช่นเดียวกับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ การบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็อยู่ในนโยบายเร่งด่วน
พท.ย้ำปมคุณสมบัติไม่ก้าวล่วงศาล
ส่วนความเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 7 พรรคฝ่ายค้านมีการเตรียม อภิปรายนโยบายรัฐบาลซึ่งมีการแบ่งและกระจายประเด็นต่างๆ เน้นใน 12 นโยบายของรัฐบาล และนโยบายเร่งด่วนรวมถึงการใช้มาตรา44 ซึ่งจะมีสมาชิกอภิปรายประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรม และคุณสมบัติส.ส.รวมถึงเรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ส่วนกรอบเวลาของการอภิปรายที่อาจจะขยายเวลาไปวันที่27 ก.ค.เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน เรื่องดังกล่าวไม่น่ามีปัญหาในสภา
เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิป ฝ่ายค้าน) กล่าวว่าตนเตรียมเสนอเรื่องต่อนายชวน เพื่อขอให้พิจารณาเพิ่มระยะเวลาการอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 25 - 26 ก.ค.ไปเป็นวันที่ 27 ก.ค.พื่อให้เหมาะสมกับบุคคลที่เตรียมอภิปรายในเรื่องดังกล่าว ส่วนประเด็นคุณสมบัติของนายกฯ ตามข้อบังคับสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบเท่านั้น ทั้งนี้จะไม่ก้าวล่วงต่อประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยไว้แล้ว
ล็อกเป้าถล่มประกันรายได้-ค่าแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายนโยบายรัฐบาล แยกเป็นประเด็นต่างๆอาทิ กลุ่มทุจริต นำโดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง โดยนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ นโยบายการเมือง ปฏิรูประเทศ แก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ
ขณะที่ พรรคอนาคตใหม่เตรียม18ส.ส.ในการอภิปราย โดยจะเน้นไปที่ประเด็นประชาธิปไตยการต่อต้านรัฐประหาร สิทธิมนุษยชน ,ส่วนนโยบายเศรษฐกิจและการเกษตร เน้นไปที่การประกันรายได้ ปัญหาที่ดินทำกิน รวมถึงประเด็นแรงงานและสวัสดิการ
ตร.งัดพ.ร.บ.ชุมนุมสกัดกลุ่มป่วน
วันเดียวกันที่ หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) อาคาร 9 ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการตั้งวอร์รูมเพื่อเตรียมความพร้อมของในแต่ละกระทรวงที่จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง มาเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อชี้แจงในระหว่างการอภิปรายตลอดทั้ง 2 วันด้วย เช่นเดียวกับ ขณะที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะใช้ห้องทำงานวิปฝ่ายค้านเป็นวอร์รูมประเมินและรวบรวมข้อมูลก่อนส่งให้ส.ส.นำไปอภิปราย
ขณะที่ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. ได้ออกคำสั่ง ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกินห้าสิบเมตร รอบพื้นที่ ประชุมรัฐสภา(ชั่วคราว) ภายในบริษัทที่โอที จำกัด (มหาชน) ตามมาตราสวรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 เพื่อเป็นการป้องกันเหตุกลุ่มผู้ไม่หวังดี อาจลักลอบเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ หรือนัดชุมนุมทำกิจกรรม