'อนุพงษ์' ปัดไม่เอี่ยว 'รองผู้ว่าฯ กทม.' ไขก๊อก

'อนุพงษ์' ปัดไม่เอี่ยว 'รองผู้ว่าฯ กทม.' ไขก๊อก

“พล.อ.อนุพงษ์” ลั่นไม่เกี่ยวรองผู้ว่าฯ กทม.ลาออก อย่ามาถาม ไม่ขัดหากฝ่ายค้านยื่นกระทู้ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสตามหน้าที่.

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.62 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายจักรพันธุ์ ผิวงาม ลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าไม่สบายใจการดำเนินโครงการโรงเตาเผาขยะสองแห่งในกทม. ว่า เรื่องลาออกไม่ต้องมาถามตน เพราะไม่เกี่ยวกับตน

เมื่อถามว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายพล.อ.อนุพงษ์ในโครงการเกี่ยวกับขยะ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ในขั้นตอนดำเนินการ เป็นเรื่องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ กรุงเทพฯก็เช่นเดียวกัน โดยขั้นตอนในการดำเนินการนั้น สามารถที่จะตั้งโครงการขึ้นมาได้ โดยผ่านคณะกรรมการต่างๆ ตั้งแต่คณะกรรมการสิ่งปฏิกูลของจังหวัด ซึ่งเป็นคณะกรรมการของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนจะส่งเรื่องมาที่คณะกรรมการกลาง ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ทำขั้นตอนขออนุมัติมา สุดท้ายจึงจะขอความเห็นชอบ จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อครม.เห็นชอบแล้วก็จะจัดสรรลงไปตามท้องถิ่นต่างๆ จากนั้นท้องถิ่นก็จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ว่าจะไปหาผู้ดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ ซึ่งทางจังหวัดต่างๆตนได้มอบอำนาจ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้กรุงเทพฯ ก็ต้องไปดำเนินการหาผู้ประกอบการ เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตามในส่วนการออกทีโออาร์ จะดำเนินการอย่างไร จะไม่นำเรื่องกลับเข้าสู่การพิจารณาของครม.อีก

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อกระบวนการแล้วเสร็จ ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือก ก็จะไปติดต่อกับ คณะกรรมการพลังงาน เพื่อขอในเรื่องของไฟฟ้า ตนเข้าใจว่าเรื่องที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ คืออยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ของกรุงเทพมหานคร ตนไม่แน่ใจว่าอยู่ในขั้นทำทีโออาร์หรือการเซ็นสัญญา อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากมีข้อไม่โปร่งใส ก็สามารถดำเนินการได้ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม ทั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ซึ่งตนยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของท้องถิ่น

“ฝ่ายค้านจะมีข้อสงสัยอะไร ผู้ดำเนินการก็ต้องชี้แจง ผมใช้คำว่าขอให้เป็นเรื่องของความถูกต้องที่ท้องถิ่นจะต้องทำให้มีความโปร่งใส หน่วยงานตรวจสอบก็จะต้องตรวจสอบ ป.ป.ช. สตง. ต้องตรวจสอบ ฝ่ายค้านก็ต้องกำกับให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้ามีพิรุธอะไรตรงไหน ฝ่ายค้านก็สามารถหยิบยกขึ้นมาได้ คนทำก็ต้องทำให้โปร่งใส”

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะไม่มีปัญหาเช่นนี้หากมีมาตรการดูแล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า มันไม่ใช่เกี่ยวกับปัญหา เกี่ยวกับว่าคนทำต้องทำให้โปร่งใส คนตรวจสอบก็มีหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายค้านเป็นคนกำกับอยู่ ก็สามารถขอทราบข้อเท็จจริงและยื่นกระทู้ และทำอะไรต่างๆได้ ถ้าทำอย่างนี้ทั่วไปทั้งหมด เราก็คงจะมั่นใจได้ว่าไม่มีการทุจริต เพราะมีคนคอยตรวจสอบ แต่พอมีคนตรวจสอบ คุณบอกว่ามีปัญหา มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของการที่เขาทำหน้าที่