ร้องกองปราบ ถูกชายอ้างเป็นตร.10คน อุ้มยกครัวไปซ้อมข้ามคืน

ร้องกองปราบ ถูกชายอ้างเป็นตร.10คน อุ้มยกครัวไปซ้อมข้ามคืน

ครอบครัวชาวเมืองสุราษฎร์ ร้องกองปราบ ถูกชายอ้างเป็นตร.10คน อุ้มยกครัวไปซ้อมข้ามคืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยป้านี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย และครอบครัว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ศรสิรัศฐิ์ นิยมรส พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อให้ช่วยติดตามคดีที่ตนและครอบครัวถูกชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอุ้มตัวไปสอบสวนแต่ระหว่างทางกลับถูกทำร้ายร่างกายด้วยการซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความตำรวจในพื้นที่แต่ไม่รับแจ้งความ

ป้านี กล่าวว่า เหตุการณ์กลุ่มชายอ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน อุ้มครอบครัวตนจาก จ. สุราษฎร์ธานี เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา เวลา 15.30 น. ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเดินทางมาที่บ้านโดยบอกว่าจะมายึดรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีดำ จากบ้านพัก อ.พระแสง ซึ่งขณะนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เจอเด็กชายเป็นหลานชายของตน เด็กชายจึงพากลุ่มชายฉกรรจ์ไปหาตนและครอบครัว ซึ่งทำงานอยู่ในสวนปาล์มห่างจากบ้านหลังแรกประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งขณะนั้นมีตน ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานวัย 5 ขวบกับ 6 เดือน อยู่ด้วยกัน ต่อมา เวลา 17.00 น. กลุ่มชายฉกรรจ์ให้ตนพาไปหาเจ้าของรถชื่อนายแทน ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กันโดยให้ทั้ง 6 คนอยู่บนรถยนต์ตลอดเวลาพร้อมยึดโทรศัพท์มือถือไปสองเครื่อง จนเวลา 21.30 น. หลังไม่พบนายแทนก็ให้พาไปหาสามีของตนซึ่งอยู่ที่อ.เวียงสระ โดยนั่งรถไปคนละคันกับลูกชาย ส่วนลูกสะใภ้กับหลานอีกสามคนนั่งรวมไปอีกคัน

ป้านี เล่าเหตุการณ์ต่อว่า กระทั่งเวลา 00.00 น. คนขับรถคันที่ตนนั่งอยู่ก็พูดว่า “มึงไม่ยอมบอกความจริงว่าผัวมึงอยู่ไหนใช่ไหม” แล้วก็บอกกับตนว่าสามีตกเป็นผู้ต้องหาเนื่องจากไปฆ่าผู้อื่นตาย แล้วจอดรถใช้กำปั้นทุบมาที่หน้าป้านีหนึ่งครั้ง แล้วหลังจากนั้นก็ใช้ฝ่ามือและกำปั้นตีมาที่ใบหน้าและต้นคอ บังคับให้บอกว่าสามีอยู่ที่ไหน ทุบตีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปจอดรถและกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาด้วยกันลงไปหมดคนขับรถก็ลงจากรถเดินอ้อมรถมาผลักให้นอนลงแล้วเอาเท้าถีบ บอกว่า “จะให้นายมาข่มขื่นให้เป็นเมียนาย ถ้าเก่งนักแบบนี้”

ป้านี กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาชายฉกรรจ์เปิดเสียงในมือถือให้คุยกับลูกชาย ลูกชายร้องโหยหวนบอกแม่ว่าผมเจ็บเขาทุบผม ช่วยผมด้วยเขาจะให้ผมเป็นแพะ ลูกตนพยายามร้องขอให้ช่วยตลอดที่คุย จากนั้นชายอีกคนก็ใช้มือทุบที่แขนและจับบิดแขนอย่างแรง เมื่อไปจอดรถที่หน้าโรงพัก สภ.เขานิพันธ์ จว.สุราษฎร์ ชายที่ขับรถก็เดินลงมาเอามือผลักและขู่ว่าจะให้เป็นเมียนายถ้ายังไม่ยอมบอกว่าสามีอยู่ไหน หลังจากนั้นก็ถูกชายที่นั่งข้างๆเอามือทุบที่หน้าอกอีกสองครั้ง จากนั้นตนถูกพาขึ้นรถพาไปถึงด่าน 7 วันอันตรายเมาไม่ขับที่หมู่บ้านของสามี ระหว่างทางที่อยู่บนรถก็ถูกใช้มือกดหัวอย่างแรงเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเห็น ตนขอลงไปปัสสาวะก็ไม่ให้ลง เมื่อถึงบ้านพ่อแม่สามีก็ไม่พบตัวสามีก็พามาที่สภ.อ. ก็มีชายอีกหนึ่งคนมาตบหน้าตนระหว่างอยู่ในห้องพัก จนวันที่ 11 เมษายน 2562 เวลา 12.00 น. ตนถูกพามาส่งบ้านโดยคืนเงินสดให้แต่ไม่คืนโทรศัพท์มือถือให้ และไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆแก่บุคคลในครอบครัวทั้ง 6 คน

หลังจากตนพักพื้นรักษาตัวอยู่บ้านจนวันที่ 14 เม.ย. 2562 ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยตอนที่เข้ารับการรักษาได้แจ้งแพทย์ว่าถูกชายอ้างเป็นตำรวจทำร้าย แพทย์จึงแนะนำให้ไปแจ้งความ ตนจึงไปแจ้งความที่สภ.อ. ทางร้อยเวรไม่รับแจ้งความและไม่ออกใบส่งตรวจร่างกายให้ แจ้งว่าอยู่คนละพื้นที่ ตนจึงไปแจ้งความที่สภ.อ. ทางร้อยเวรไม่ทราบว่าชื่อคู่กรณีเป็นใครก็แจ้งความไม่ได้ และไม่ออกใบส่งตรวจร่างกายให้ และลงบันทึกประจำวันไว้ จึงไปร้องเรียนที่ค่ายทหารวิภาวดี อ.เมืองสุราฎร์ธานี ทางทหารจึงตามความคืบหน้าไปที่โรงพักให้ จึงเริ่มมีตำรวจมาตรวจสอบให้จนได้รายชื่อมาแต่ก็เงียบหายไปพร้อมกับคำพูดของผู้กำกับว่า “ถ้าใครไม่ได้ทำร้ายคุณๆก็อย่าไปเอาเรื่องเขา เขาแค่ไปด้วยกันแค่นั่งข้างๆเฉยๆ

เบื้องต้น ร.ต.อ.หญิง ศรสิรัศฐิ์ ได้รับเรื่องไว้ ก่อนส่งเรื่องให้บังคับบัญชาพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป