รีบาวด์

รีบาวด์

ดัชนีวานนี้ปิดในแดนลบ สวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยตลาดภายในประเทศมีปัจจัยกดดันเฉพาะตัว

โดยเฉพาะแรงขายในหุ้น JAS จากกระแสของดีลการขายกิจการ ฉุดกลุ่มสื่อสารลงมาทั้งกลุ่ม นำโดย JAS ADVANC และ TRUE นอกจากนี้ ปัจจัยต่างประเทศยังต้องติดตามผลการประชุมของ ECB และเฟด ในช่วงวันที่ 25-31 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะซื้อสุทธิที่ 1,720.68 ลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,724.87 จุด (-2.71 จุด) Volume 6.2 หมื่นลบ. TFEX Net -7,394 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -1,156 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 177.29 จุด +0.65% ขานรับผลประกอบการแข็งแกร่งของบจ.ใหญ่  สหรัฐ-จีนจะจัดการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า ทำเนียบขาว-สภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงเลี่ยงการชัตดาวน์ได้แล้ว

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 55 เซนต์ +1% ปิด 56.77 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์  สหรัฐ-จีนจะจัดการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า

+รมว.คลังเปิดเผยว่าได้มอบนโยบายระยะสั้นที่ใช้งบประมาณในปี 62 และแผนระยะยาวที่ต้องใช้งบปี 63 เพื่อดูแลเศรษฐกิจ

+ Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 6.3 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.905 บาท/US

- IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกครั้งที่ 2 ในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.2% จากเดิม  3.3% ในเดือนเม.ย เตือนแนวโน้มศก.อยู่ในช่วงขาลง

- สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.ลดลง 1.7% สู่ระดับ 5.27 ล้านยูนิต แย่กว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.2% สู่ระดับ 5.33 ล้านยูนิต

- จีนเริ่มสอบสวนการทุ่มตลาดสารโพรพานอลที่นำเข้าจากสหรัฐ

-อังกฤษมีแนวโน้ม Brexitโดยไม่มีการทำข้อตกลงหลังนายบอริส จอห์นสันได้ตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่ และจะเป็นนายกฯคนต่อไปของอังกฤษ

*จับตาสหรัฐเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้น ยอดขายบ้านใหม่ และ EIA เผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐ-จีนจะจัดการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า ประกอบกับข่าวทำเนียบขาวและสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี้ยง ชัตดาวน์ ครั้งใหม่ ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.ค. นี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,720-1,730 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30 ORI) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (STEC CK STPI SEAFCO) ,หุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA PSL RCL AMA),หุ้น Mid-Small Cap. ที่คาดผลประกอบการ 2Q19 เติบโตดี (VL AMA TACC JUBILE SABINA NER)

หุ้นรายงานพิเศษ

JAS (ราคาปิด 6.30 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 5.60 บาท)

JAS เนื้อหอม! ยักษ์สื่อสารไทย-เทศ รุมเจรจาเข้าซื้อกิจการ ขณะที่วงการสื่อสารแย้ม "โคเรีย เทเลคอมมิวนิเคชั่น" ยักษ์ใหญ่สื่อสารจากเกาหลีใต้มาแรง พร้อมจับตา ADVANC-DTAC เสนอราคาแข่งเพื่อเข้าเทกโอเวอร์ เชื่อประกาศปิดดีลได้ภายในปีนี้ (ที่มา : ข่าวหุ้น)  ทั้งนี้ เช้านี้ JAS ได้แจ้งข่าวต่อตลท.โดยปฏิเสธว่าตามที่ปรากฎข่าวในหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ บริษัทไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวและไม่เคยให้ข่าวแต่อย่างใด (ที่มา SET NEWS)

ความเห็น การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้น JAS อย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวลือดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นแน่ชัดว่าดีลดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยล่าสุดวานนี้ได้มีอีกกระแสข่าวลือได้ระบุว่า ดีลขายหุ้น JAS อาจไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากสามารถนำเงินไปชำระหนี้สถาบันการเงินครบถ้วนแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีความจำเป็นต้องขายหุ้น ส่งผลให้ราคาJAS วานนี้ปรับตัวแรง แต่ยังคงสูงกว่าราคาเหมาะสมของที่ Bloomberg Consensus 5.60 บาท เราจึงแนะนำ “ชะลอการลงทุน”

หุ้นมีข่าว   

·      กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)  จะเพิ่มทุนไม่เกิน 10,500 ล้านบาทเพื่อระดมทุนรองรับการเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมครั้งที่ 4 โดยจะเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม (RO) กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อหน่วยลงทุนใหม่ในอัตราส่วน 9.40 หน่วยลงทุนเดิม ต่อ 1 หน่วยลงทุนใหม่ กำหนด XB  2 ส.ค. 2562

·      EKH (ราคาปิด 7.85 ซื้อ ราคาเหมาะสม 8.70) ส่องกลุ่มโรงพยาบาลไตรมาส 2/2562 พบหุ้นไซซ์เล็กพุ่งแรงกว่าไซซ์ใหญ่ทั้ง RJH-EKH แม้กำไรทั้งกลุ่มถูกกดดันจากหน้าโลว์ซีซัน และการตั้งสำรองกฎหมายแรงงาน แต่เชื่อว่าครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตจากการเข้าสู่ไฮซีซัน โบรกเชียร์ EKH และ BCH ด้านผู้บริหาร EKH ยืนยันเป้าโต 15% เปิดศูนย์แพทย์เฉพาะทางเสริมแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

·      PSH (ราคาปิด 22.60 บาท  Bloomberg Consensus 20.56 บาท) คอนเฟิร์มสิ้นปี 2562 ยอดขายโครงการในกลุ่มพรีเมียมเกินเป้า 7.5 พันล้านบาท รับดีมานด์พุ่งกระฉูด ด้าน ผบห.เล็งปั้น 3-4 โครงการใหม่ปี 2563 เติม Backlog เพิ่ม จากเดิมราว 1.8 หมื่นล้านบาท กินยาวเสริมแกร่งอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

·      PTG (ราคาปิด 22.80 บาท  Bloomberg Consensus 17.93 บาท)  เล็งรับรู้ส่วนแบ่งรายได้-กำไร โครงการปาล์มคอมเพล็กซ์เต็มปี จากการถือหุ้น 40% หลังเดินเครื่องผลิต 100% ภายในไตรมาส 4/2562 นี้ ขณะที่คาดมีรายได้ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี และมีกำไร 600-700 ล้านบาทต่อปี ย้ำผลงานปีนี้โต 15-20% ปริมาณขายน้ำมันดีเกินเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

·      JWD (ราคาปิด 10.00 บาท  Bloomberg Consensus 11.60 บาท) คาดแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2562 ดีต่อเนื่อง ชี้ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JCS) มีอัตราเช่าพื้นที่เพิ่มเป็น 70% ลุ้นปิดดีลลูกค้ารายใหญ่ดันพื้นที่เช่าเต็ม 100% (ที่มา ทันหุ้น)

·      BAFS (ราคาปิด 35.75 บาท  Bloomberg Consensus 39.00 บาท) ปรับกลยุทธ์ใหม่เพิ่มรายได้เพิ่ม เล็งรับรู้รายได้จากธุรกิจขนส่งท่อน้ำมันภาคเหนือเป็นปีแรกด้านปริมาณการเติมน้ำมันปีนี้เติบโต 4% เหตุปริมาณเที่ยวบิน-นักท่องเที่ยวจีนลด พร้อมเดินหน้าเตรียมซื้อซองประมูลสนามบินอู่ตะเภา คาดรู้ผลภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

·      EPCO จังหวะดี ธุรกิจออนไลน์ขยายตัวแรง ดันยอดผลิตกล่องลูกฟูกเติบโต บวกซดขายไฟในประเทศ-ต่างประเทศต่อเนื่อง หนุนกำลังผลิตปีนี้เข้าเป้า 555 เมกะวัตต์ เสริมผลงานแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

·      TKN (ราคาปิด 10.10 บาท  Bloomberg Consensus 9.10 บาท) ประเมินภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลัง 2562 สดใสกว่าจากกำลังซื้อในประเทศดีขึ้น อีกทั้งยอดขายในจีนเริ่มฟื้นตัว ส่วนตลาดสหรัฐการตอบรับดี เล็งขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มคาดปลายปีได้ข้อสรุป 1 ราย เตรียมประชุมบอร์ด-แจงงบไตรมาส 2/2562 ในวันที่ 14 สิงหาคม 2562 (ที่มา ทันหุ้น)

  • MC ยังเชื่อกำลังซื้อครึ่งหลังปีฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป ปรับกลยุทธ์เชิงรุกใหม่ ขยาย McMc Outlet Store หวังช่วยเร่งระบายสต๊อกสินค้าได้เพิ่ม ช่วยพยุงอัตรากำไรขั้นต้นปี 2562 ยืนเหนือ 56-58% (ที่มา ทันหุ้น)
  • JSP วางเป้ารายได้รวมปี 63 โต 4,500 ล้านบาท เล็งเปิดแนวราบใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,200 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดโกยรายได้ 3,215 ล้านบาท พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อระดมเงินไปซื้อที่ดินเพิ่ม (ที่มา ข่าวหุ้น)
  • CMAN (ราคาปิด 46 บาท Bloomberg Consensus 3.75 บาท) ทุ่ม 928.50 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 80% ใน HA LONG QN LIME COMPANY LIMITED ผู้ประกอบธุรกิจปูนไลม์ที่ได้รับสิทธิในการทำเหมืองแร่หินปูนเคมีในเวียดนาม คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/62 หวังขยายฐานการผลิต (ที่มา ข่าวหุ้น)