เวียดนามเล็งเว้นภาษี ‘เอสเอ็มอี’

กระทรวงการคลังเวียดนาม ได้เสนอนโยบายใหม่ต่อสภาแห่งชาติเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่กำหนดให้ยกเว้นและลดภาษีสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เติบโตจากบริษัทระดับครัวเรือน

หนึ่งในข้อเสนอของกระทรวงคลังกำหนดให้เก็บภาษีอัตรา 15% สำหรับธุรกิจรายย่อยที่มีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 3,000 ล้านด่อง และมีแรงงานน้อยกว่า 10 คน และเก็บภาษี 17% สำหรับธุรกิจรายย่อยที่มีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 5 หมื่นล้านด่อง และจ้างพนักงานไม่ถึง 100 คน

ธุรกิจครัวเรือนที่มีคุณสมบัติได้รับการยกเว้นภาษีจะต้องดำเนินการอย่างน้อย 12 เดือนนับตั้งแต่ออกใบรับรองการจดทะเบียนประกอบธุรกิจ

หลักเกณฑ์ใหม่ระบุว่า ช่วงเวลายกเว้นภาษีจะคำนวณต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกที่บริษัทมีรายได้ที่สามารถหักภาษีได้ และในกรณีที่ไม่มีรายได้ที่หักภาษีได้ในช่วง 3 ปีแรก นับตั้งแต่ปีแรกที่มีผลตอบแทน ก็จะเริ่มนับช่วงยกเว้นภาษีตั้งแต่ปีที่ 4

นอกจากนั้น กระทรวงการคลังยังเสนอว่าควรบังคับใช้สิทธิพิเศษทางภาษีกับบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือของเอสเอ็มอี เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเหล่านี้อาศัยความได้เปรียบจากนโยบายดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางการเวียดนามคาดว่า ข้อเสนอนี้จะเปิดทางให้ประเทศบรรลุเป้าหมายก่อตั้งบริษัทรายย่อย 1 ล้านรายภายในปี 2563 ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนธุรกิจและการก่อตั้งธุรกิจครัวเรือน

ปัจจุบัน ภาษีเงินได้นิติบุคคลบังคับใช้กับธุรกิจทุกประเภทในอัตรา 20% และหากข้อเสนอใหม่ที่ให้เก็บภาษีอัตรา 15% และ 17% กับเอสเอ็มอีมีผลบังคับใช้ จะทำให้บริษัทเหล่านี้มีรายจ่ายภาษีลดลง 3-5%

กระทรวงคลังเวียดนาม คำนวณว่า การยกเว้นภาษีดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีรายได้ลดลง 9.2 ล้านล้านด่องต่อปี และจะเพิ่มแรงกดดันต่องบประมาณรัฐบาลกลางในระยะสั้น แต่คาดว่าจะส่งผลครั้งใหญ่ต่อการส่งเสริมการผลิตและธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อธุรกิจและปรับปรุงความโปร่งใสและการปฏิรูประบบราชการด้วย