‘กานา-ไอวอรีโคสต์’เลิกขู่ไม่ขายโกโก้

‘กานา-ไอวอรีโคสต์’เลิกขู่ไม่ขายโกโก้

ไอวอรีโคสต์และกานา สองประเทศผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่สุดของโลก เลิกขู่หยุดขายผลผลิตเพื่อจะดันราคาให้สูงขึ้นแล้ว

ตามที่สองชาติเพื่อนบ้านในแอฟริกาตะวันตกเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ช็อกตลาดโกโก้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่าจะไม่ขายโกโก้ประจำฤดูกาล 2563-2564 ให้กับผู้ซื้อที่ไม่กล้าจ่ายในราคาต่ำสุดตันละ 2,600 ดอลลาร์

สองประเทศนี้ที่ผลิตโกโก้รวมกันคิดเป็น 60% ของทั้งโลก ช่วยกันรณรงค์หวังยุติสถานการณ์ที่ตลาดช็อกโกแลตโลกมูลค่าถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่ผู้ผลิตกลับทำเงินเพียง 6 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น

แต่ล่าสุดเปลี่ยนใจแล้ว เมื่ออีฟ โคเน บราฮิมา และโจเซฟ โบเฮน ไอดู ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารคณะกรรมการโกโก้กานา ประกาศว่า สองประเทศตัดสินใจยกเลิกการระงับขายผลผลิตประจำปี 2563/2564 โดยจะชดเชยส่วนต่างให้ตันละ 400 ดอลลาร์ต่อตัน หากราคาตลาดต่ำกว่า 2,600 ดอลลาร์ต่อตัน

รายงานล่าสุดจากธนาคารโลกเผยว่า ไอวอรีโคสต์ ผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่สุดของโลก ทำเงินได้เพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าโกโก้ ผู้ผลิต 55% ดำรงชีวิตด้วยเงินเพียงวันละ 1.3 ดอลลาร์เท่านั้น ต่ำกว่าเส้นความยากจนเสียอีก

การส่งออกโกโก้คิดเป็น 40% ของการส่งออกทั้งหมด แต่ไอวอรีโคสต์มีรายได้ราว 8% ของผลกำไรรวมจากอุตสาหกรรมช็อกโกแลต-โกโก้เท่านั้น อีกเกือบ 80% ไปกระจุกอยู่กับกระบวนการแปรรูปช็อกโกแลตและการกระจายสินค้าขั้นสุดท้ายไปถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสองกระบวนการนี้ไอวอรีโคสต์ไม่เคยมีบทบาทสำคัญเลย