'นิกร' ยอมรับได้ พรรคร่วมรบ. ได้ 5 ชม.อภิปรายนโยบายรัฐบาล

'นิกร' ยอมรับได้ พรรคร่วมรบ. ได้ 5 ชม.อภิปรายนโยบายรัฐบาล

"นิกร" ยอมรับได้ พรรคร่วมรบ. ได้ 5 ชม.อภิปรายนโยบายรัฐบาล เตรียมประชุม ส.ส.เพื่อจัดคิวอภิปราย จ่อขยายความนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติ, สิ่งแวดล้อม ระบุยังไม่เห็น ประเด็นแก้รธน. ชี้แก้ไขได้ยาก หากทุกฝ่ายไม่เห็นด้วย

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการจัดสรรเวลาให้พรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลอภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อรัฐสภา วันที่ 25 26  กรกฎาคม จำนวนรวม 5 ชั่วโมง ว่า ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาจะนำข้อสรุปจากการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วันที่  23 กรกฎาคม หารือกับที่ประชุมส.ส. พรรคอีกครั้ง ในวันดังกล่าว ช่วงเวลา 14.00 น. ว่าพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค ได้รับการจัดสรรเวลาเท่าใด และ วิปรัฐบาลมีกรอบการอภิปรายส่วนของพรรคร่วมอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ยอมรับว่าการจัดสรรเวลาดังกล่าวให้พรรคร่วมรัฐบาลอาจจะน้อยเกินไป แต่ในหลักการปกติถือว่ายอมรับได้

นายนิกร กล่าวด้วยว่าสำหรับเนื้อหาอภิปรายของตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนานั้น หลังจากได้เห็นเนื้อหานโยบายรัฐบาลทั้งหมดแล้ว จะกำหนดประเด็นอีกครั้ง โดยในเบื้องต้นจะเน้นการอภิปรายรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อขยายความให้ประชาชนรับทราบต่อนโยบายและแนวทางปฏิบัติ

ถือว่าเป็นการทำความเข้าใจระหว่างกัน เพราะตอนร่างนโยบายพรรคส่งเพียงหัวข้อที่อยากให้เขียนไว้ในนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น ดังนั้นการอภิปรายต้องนำเสนอแง่มุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นายนิกร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นและรายละเอียดต่อข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายนิกร กล่าวว่าตนยังไม่เห็นถ้อยคำที่เขียนไว้ในนโยบายรัฐบาล ดังนั้นจึงไม่ทราบว่ารัฐบาลจะวางแนวทางไว้อย่างไร หรือ ผลักดันให้เป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ ส่วนกรณีที่พรรคชาติไทยพัฒนาเคยสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยใช้ช่องทางสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560  เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก หากทุกฝ่ายทั้งส.ส. และ ส.ว. รวมถึงประชาชนไม่เห็นด้วย ดังนั้นประเด็นดังกล่าวต้องพิจารณาแนวทางที่ทำให้ทุกฝ่ายเห็นด้วย เพราะหลักการแก้ไข และ วิธีการที่จะนำไปสู่การแก้ไขมีความสำคัญเท่าๆ กัน.