บุกรวบหนุ่มไนจีเรีย คดีฉ้อโกง เอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

บุกรวบหนุ่มไนจีเรีย คดีฉ้อโกง เอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ตำรวจ ตม. บุกรวบหนุ่มไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาฉ้อโกงใช้เอกสารปลอม และร่วมกันกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช. สตม., พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.เจนกมลคำนวล รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร ผกก.กก.5 บก. ตม.1 และ พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัยผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันแถลงการจับกุมนายเบอร์ทาน อาคาลย์ (Mr. BERTRAND IFEANYICHUKWU AKILE) ชาวไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2015/2558 ลงวันที่ 14 ก.ย. 2554 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันปลอม-ใช้เอกสารปลอม ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ และร่วมกันกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ"

ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม ทางการไทยสามารถจับกุมสมาชิกแก๊งนี้ได้แล้ว 2 ราย คือนายไบรท์ ชโยก นีดูบูซ (Mr.BRIGHT CHYOKE NIDUBUEZE) และนายออนยีคาชุกวู เอลวิส สมาร์ท อึ้กบลู(Mr.OMNYEKACHUAWU ELVIS SMART EGBULE) โดยได้มีการดำเนินคดีไปแล้วตั้งแต่ปี 2558 ก่อนสืบทราบว่า นายเบอร์ทาน เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของแก๊ง และได้หลบหนีการจับกุมมาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งมีหน้าที่ทำธุรกรรมบัญชีการเงิน โดยปลอมอีเมลของบริษัทและส่ง ไปหาลูกค้าของบริษัท เพื่อให้โอนเงินเข้ามา ก่อนจะนำเงินดังกล่าวส่งต่อไปยังสมาชิกเครือข่ายเพื่อฟอกเงิน ทั้งนี้ การกระทำของเครือข่ายดังกล่าวเคยสร้างความเสียหายสูงสุดถึง 370 ล้านบาท

กระทั่ง กก.2 บก.ตม.1 พบว่า นายเบอร์ทาน ได้มายื่นขอวีซ่าอยู่ต่อในราชอาณาจักรในฐานะนักศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่ง และเมื่อตรวจสอบหนังสือพาสปอร์ตพบว่าผู้ต้องหาได้เปลี่ยนเล่มใหม่เพื่อเลี่ยงการติดตามข้อมูล แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ระบบตรวจอัตลักษณ์บุคคลไบโอเมตริกซ์ ตรวจพบว่า นายเบอร์ทาน เป็นบุคคลตามหมายจับ จึงได้จับกุมตัวและส่งดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้อีกคดีได้จับกุมนายโจนาธาน เทอเรย์ (Mr. JONATHAN TURLEY) ชาวไอริช ผู้ต้องหาที่ก่อ 6 คดีอุกฉกรรจ์ในประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งหลบหนีหมายจับมาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย โดยพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวชาวไทยในคอนโดย่านสุขุมวิท

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจได้รับการประสานจากเอกอัครราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทยว่า นายโจนาธาน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ต้องการตัว ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังเคยโจรกรรม และมีคดีความเกี่ยวกับอาวุธปืนในประเทศไอร์แลนด์ห้วงเวลา ปี 2558-2561 ก่อนจะหลบหนีมาซ่อนตัวในประเทศไทย โดยพยายามปกปิดข้อมูลที่พักอาศัย ด้วยการแจ้งที่พักอาศัยและหมายเลขโทรศัพท์ไม่ตรงกับความจริง รวมถึงยังโยกเปลี่ยนที่พักไปมา โดยเช้าห้องพักไว้ 3-4 ห้อง และจะส่งพัสดุลวงไปยังห้องอื่นที่ตนเองไม่ได้พักอยู่ รวมถึงเดินทางอยู่ตลอดเวลาทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้นายโจนาธาน เป็นคนมีฐานะ และมีความชื่นชอบในศิลปะป้องกันตัวมวยไทย จึงได้เข้าคอร์สเรียน เพื่อขึ้นชกชิงแชมป์ในเวทีต่างๆ กระทั่งชุดจับกุมสืบทราบว่า นายโจนาธาน ได้มาพักอยู่กับแฟนสาวชาวไทยที่คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท 58 จึงนำกำลังไปซุ่มรอก่อนจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมผลักดันส่งกลับประเทศดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป