ดาวโจนส์ปิดบวกในกรอบแคบ

ดาวโจนส์ปิดบวกในกรอบแคบ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (18ก.ค.)ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบๆ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมช่วงปลายเดือนนี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 3.12 จุดหรือ 0.01% ปิดที่ 27,222.97 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 10.69 จุดหรือ 0.36% ปิดที่ 2,995.11 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 22.04 จุดหรือ 0.27% ปิดที่ 8,207.24 จุด

ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์มากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค.

ในการสำรวจล่าสุด พบว่าเฟดวอทช์  ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของซีเอ็มอี กรุ๊ปบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 65.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% จากปัจจุบันที่ระดับ 2.25-2.50% และมีโอกาส 34.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% และมีโอกาสเพียง 7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%

ขณะที่นางทิฟฟานี วิลดิง ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ของพิมโค บริษัทซื้อขายพันธบัตรยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีเหตุผลที่หนักแน่นในการสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงขึ้นในเดือนนี้

"ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงนี้ค่อนข้างน่าพึงพอใจ แต่แนวโน้มการขยายตัวโดยรวมยังคงอ่อนแอ โดยเฟดมีโอกาสน้อยลงในการผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบดั้งเดิม ขณะที่สหรัฐอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จึงทำให้เฟดต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินที่รุนแรงขึ้น ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค. เพื่อป้องกันเศรษฐกิจสหรัฐจากปัจจัยลบ" นางวิลดิง กล่าว