ระวังแรงทำกำไรในกลุ่มที่ขึ้นมามาก การเก็งกำไรเน้นหุ้นกลาง-เล็ก หรือกลุ่มอาหาร

ระวังแรงทำกำไรในกลุ่มที่ขึ้นมามาก การเก็งกำไรเน้นหุ้นกลาง-เล็ก หรือกลุ่มอาหาร

ความกังวลสงครามการค้ากลับมากระทบสินทรัพย์เสี่ยงและน้ำมัน

ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำปรับตัวขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ราคาสินค้าเกษตรสำคัญของสหรัฐฯ อย่างถั่วเหลือง ปรับลดลงจากความไม่แน่นอนทางการค้าและคาดการณ์ผลผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มอาหาร ที่ใช้กากถั่วเหลือเป็นต้นทุนอาหารสัตว์ ทั้งนี้ CPF อาจได้รับปัจจัยลบทางจิตวิทยาจากไข้หวัดหมู ดังนั้นผู้ผลิตอาหารทะเล และเนื้อไก่ คาดเคลื่อนไหวโดดเด่นกว่า เราชอบ TU, GFPT / ทั้งนี้ราคาทองคำที่ปรับขึ้นเป็นลบกับต้นทุนหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีต้นทุนสารประกอบ เกลือทอง หรือลวดที่ทำมาจากทอง

หุ้นกองทุนอสังหาฯ REIT และไฟฟ้าปรับลงแรง ซึ่งเราเตือนให้ระวังแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มนี้มาตั้งแต่ต้นก.ค. เบื้องต้นคาดว่ามาจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1) ราคาหุ้นหลายตัวปรับขึ้นมาใกล้ราคาเหมาะสม รวมถึงผลตอบแทนเงินปันผลลดลงจนเริ่มไม่จูงใจ 2) หุ้นในกลุ่มนี้มีความไวต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งราคาตอบรับปัจจัยบวกมากแล้วขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ อาจยังไม่ปรับลงในรอบนี้ 3) ความเห็นของผู้ว่าธปท.ที่มองว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรับมือการแข็งค่าของบาท ทำให้อัพไซด์ช่วงสั้นของหุ้นในกลุ่มนี้จำกัด 4) หุ้นไฟฟ้าอย่าง GPSC ใกล้ประกาศราคาและรายละเอียดเพิ่มทุน จึงมีแรงขายปรับพอร์ตหุ้นในกลุ่มไฟฟ้าเพื่อเตรียมเงินไว้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว

เน้นการเก็งกำไรเป็นรายตัว (selective buy) รับอานิสงค์ ครม.ใหม่เร่งอัดฉีดงบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนกลุ่ม ค้าปลีก/รับเหมาฯ/นิคมฯ อาทิ STEC, CK, SEAFCO, WHA, ROBINS, BJC รวมถึงหุ้นกลุ่มอาหาร หรือ สาธารณูปโภคที่ราคายังขึ้นน้อยกว่ากลุ่ม ขณะที่ สามารถเลือกเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ WHAUP, GUNKUL*, CPF, TU, GFPT, CPN, NNCL เป็นต้น / เก็งกำไร AQUA*, EPCO*, PRM*, TTA*, PSL*, VL*

ภาพรวมกลยุทธ์: ค่าเงินสหรัฐที่แข็งค่า ยังกดดันหุ้นในเอเชีย รวมถึงกดดัน SET พักตัวโดยมีแนวรับ 1705 จุด การเก็งกำไรเน้นหุ้นกลาง-เล็ก รวมทั้งกลุ่มอาหารที่มีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 2 ดี และได้ประโยชน์จากสงครามการค้า // หุ้นแนะนำวันนี้ GFPT, TU เก็งกำไร AQUA* (เป้า 0.70 ตัดขาดทุน 0.50), VL* (เป้า 2.40 ตัดขาดทุน 1.63)

แนวรับ 1705-1713 / แนวต้าน : 1728 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

เงินปอนด์อ่อนค่าลงหนักสุดในรอบ 2 ปี –นับเป็นสกุลเงินกลุ่ม G10 ที่ปรับตัวแย่สุดในปีนี้ โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากความกังวลเกี่ยวกับการแยกตัวแบบไร้ข้อตกลง (No-Deal Brexit) หลังตัวเก็งนายกฯคนใหม่ของอังกฤษทั้ง 2 คน (รู้ผลเลือกตั้ง 23 ก.ค.) ยืนยันออกจากสหภาพยุโรปภายใน 30 ต.ค. แม้จะไม่มีข้อตกลงก็ตาม

ธปท.ยันไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย – ธปท.เผยยังไม่มีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อแก้ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท

FETCO เตรียมเสนอกองทุนใหม่ทดแทน LTF – สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เตรียมนำเสนอข้อมูลกองทุนใหม่ที่จะนำมาทดแทนกอง LTF ที่กำลังจะหมดอายุปีนี้ โดยกองใหม่จะช่วยลดหย่อนภาษีแก่ผู้ที่มีรายได้ปานกลาง และผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น คาดเสนอคลังได้ในช่วงต้น ส.ค. ก่อนเริ่มใช้ปี 63

ชะลอขึ้นค่าแรง – รมว.แรงงานเผยยังไม่ปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 400 บาท เพาะจะมีผลกระทบมากต่อนายจ้าง ภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจมหภาค โดยอาจให้ปรับขึ้นแค่บางพื้นที่ก่อน

ประเด็นติดตาม: 18 ก.ค. – Beige Book, 24 ก.ค. – US manufacturing PMI // EU manufacturing PMI เดือน ก.ค., 25 ก.ค. – ECB meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)