‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.88 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.88 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดปิดรับความเสี่ยง นักลงทุนกลับมาพักเงินในสินทรัพย์ปลอดภัย เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า สะท้อนภาพตลาดในประเทศ หวังธปท. ลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในปีนี้ 

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ30.88 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าจากระดับ30.91 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในโหมดปิดรับความเสี่ยง(Risk-Off) หลังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกรายงานออกมาแย่กว่าคาดดัชนีS&P500 ของสหรัฐฯปรับตัวลดลง0.7% เช่นเดียวกันกับดัชนีFTSE100 ของอังกฤษและดัชนีSTOXX50 ของยุโรปที่ต่างปิดลบ0.6% 

ความกังวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดย้ายกลับมาพักเงินในสินทรัพย์ปลอดภัยบอนด์ยีลด์ทั่งโลกปรับตัวลงราว4-6bps จนล่าสุดบอนก์ยีลด์สหรัฐฯอายุ10ปีร่วงลงมาที่ระดับ2.04% อีกครั้งดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น1.4% สู่ระดับ1,426.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ  เริ่มที่ฝั่งยุโรปสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป(Eurostat) เปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อ(CPI) ยูโรโซนในเดือนมิถุนายนปรับตัวขึ้นจากระดับ1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนสู่ระดับ1.3% แต่โดยรวมอัตราเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปที่ระดับ2.0%

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน(EIA) ประกาศยอดสต็อกน้ำมันดิบคงคลัง(Crude inventories) ลดลง3.1ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้าแต่ยอดสต็อกน้ำมันเบนซิน(Gasoline Inventories) กลับเพิ่มขึ้น3.6ล้านบาร์เรลชี้ว่าความต้องการใช้พลังงานในสหรัฐฯลดลง

สำหรับวันนี้มองว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้(BOK) จะ“คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ1.75% แต่เชื่อว่าBOK จะลดดอกเบี้ย0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้ 

ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซีย(BI) อาจ“ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบายลง0.25% มาที่ระดับ5.75% เช่นเดียวกับธนาคารกลางแอฟริกาใต้(SARB) ที่จะ“ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Repurchase Rate) ลง0.25% สู่ระดับ6.50% และธนาคารกลางประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยลงได้มากกว่านี้หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยลงจริง

ภาพตลาดล่าสุดเงินบาทยังคงซื้อขายตามทิศทางการเคลื่อนไหวของทองคำเป็นหลักอย่างไรก็ดีเมื่อราคาทองปรับตัวลงแตะระดับ1400ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็มีแรงซื้อกลับขึ้นมาจึงทำให้เงินบาทไม่อ่อนค่าไปมาก 

สำหรับวันนี้คาดว่าเงินบาทมีโอกาสปรับตัวแข็งค่ากลับขึ้นได้เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดรับความเสี่ยงในลักษณะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวลงเงินเยนแข็งค่าและราคาทองคำปรับตัวขึ้นโดยการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวนอกจากจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าแล้วยังจะกดดันให้ดอกเบี้ยอ้างอิงเงินบาท(THBFIX) ปรับตัวลงด้วยล่าสุดTHBFIX 6เดือนอยู่ในระดับต่ำเพียง1.36% สะท้อนภาพตลาดในประเทศที่มีความหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะ“ลด” ดอกเบี้ยอย่างน้อย0.25% ในปีนี้ 

มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.85-30.95 บาทต่อดอลลาร์