สหรัฐอาสาเป็นกาวใจประสานรอยร้าว"ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้"

สหรัฐอาสาเป็นกาวใจประสานรอยร้าว"ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้"

นักการทูตอาวุโสเผย สหรัฐจะทำทุกอย่างที่ทำได้ช่วยปลดชนวนความขัดแย้งระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น

นายเดวิด สติลเวล เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านนโยบายเอเชียตะวันออกของสหรัฐ เดินทางเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้ วานนี้ (17 ก.ค.) ในช่วงที่พันธมิตรอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นกำลังขัดแย้งกันอย่างหนัก ส่งผลต่อซัพพลายชิพความจำและสมาร์ทโฟนทั่วโลก สหรัฐที่ไม่ยอมเข้ามายุ่งเรื่องนี้จำต้องออกโรง

นายสติลเวล  เผยว่า เขาจริงจังกับเรื่องนี้ แต่ไม่ได้เผยรายละเอียดถึงขั้นตอนการดำเนินการของรัฐบาลวอชิงตัน กล่าวเพียงว่าโดยหลักการแล้วต้องขึ้นอยู่กับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน

“เราหวังว่าคงจะหาทางออกได้ในเร็วๆ นี้ สหรัฐในฐานะเพื่อนสนิทและพันธมิตรของทั้งสองประเทศ จะทำทุกอย่างที่ทำได้สนับสนุนความพยายามหาทางออก”

ท่าทีดังกล่าวถือว่าสวนทางกับเมื่อสัปดาห์ก่อนที่นายสติลเวลกล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นว่า สหรัฐจะไม่แทรกแซงในข้อขัดแย้งนี้ โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายไปคุยกันเอง

แหล่งข่าวรายหนึ่งในรัฐบาลเกาหลีใต้เผยว่า การที่ญี่ปุ่นควบคุมการส่งออกวัตถุดิบสำคัญให้เกาหลีใต้อาจสร้างความเสียหายให้กับบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก รวมทั้งการทำงานของซัมซุงในออสติน เมืองเอกของรัฐเท็กซัสด้วย ซึ่งนั่นจะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับหลายบริษัท ตั้งแต่แอ๊ปเปิ้ล อเมซอน เดลล์ โซนี รวมถึงผู้บริโภคหลายพันล้านคนทั่วโลก และถ้าญี่ปุ่นยังเล่นงานต่อถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีประเทศที่เจอข้อจำกัดทางการค้าน้อย ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา จนกลายเป็นความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลโซลกำลังพิจารณาหามาตรการตอบโต้หรือไม่ แหล่งข่าวรายเดิมย้ำว่า เกาหลีใต้นิยมแก้ข้อขัดแย้งด้วยการทูตมากกว่า

ด้านนายฮอง นัม กี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแดนโสมขาว ยังคงเรียกร้องอีกครั้งให้ญี่ปุ่นยกเลิกการควบคุมวัตถุดิบ และว่าเร็วๆ นี้รัฐบาลโซลจะเผยแผนเพิ่มความอิสระให้ซัพพลายเชน

ขณะที่นายยาสุโทชิ นิชิมูระ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ขอให้รัฐบาลโซลดำเนินมาตรการเหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาแรงงาน ที่เป็นประเด็นขึ้นเมื่อศาลเกาหลีใต้พิพากษาเมื่อปลายปี 2561 ให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2