คึกคัก! ชาวพุทธแห่ทำบุญตักบาตร ช่วงวันหยุดยาว

คึกคัก! ชาวพุทธแห่ทำบุญตักบาตร ช่วงวันหยุดยาว

พุทธศาสนิกชนแห่เข้าวัด ตักบาตรทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ก่อนวันเข้าพรรษา เพื่อความเป็นสิริมงคลกันอย่างคึกคัก เนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุดยาว

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันอาสาฬหบูชาประจำปีพุทธศักราช 2562 ก่อนวันเข้าพรรษาและวันหยุดยาวที่วัดป่าภูผาสูง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา มีพุทธศาสนิกชน มาทำบุญตามวิถีชาวบ้านท่องถิ่นแบบเรียบง่าย คนเฒ่าคนแก่ต่างพาลูกจูงหลานนำข้าวสารอาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียน และสังฆทานทยอยมาทำบุญตั้งแต่ช่วงเช้ากันอย่างคึกคัก พร้อมกับกราบสักการะพระธาตุจอมผา ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประชาชนจะถือโอกาสนี้เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา จึงมีโอกาสเข้าวัดทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลและอุทิศบุญกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว

ขณะที่เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ลานปูนด้านหลังพิพิธภัณฑ์เมือง สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายกองเอกปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าฯ อุดรธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ได้นำอาหารคาว หวาน ผลไม้ มาร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา โดยมีพระสงฆ์ 9 รูปบิณฑบาต โดยประชาชนที่มาร่วมก็จะสวมชุดผ้าทอไทยเป็นการส่งเสริมให้เห็นคุณค่าผ้าทอไทย ร่วมกันสวมใส่ผ้าทอไทย ร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น

โดยช่วงเช้าพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่บิณฑบาตตามวัดต่างๆ รวมถึงตามเส้นทางที่พระแต่ละวัดออกบิณฑบาต เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ส่วนช่วงในค่ำ พุทธศาสนิกชน จะร่วมพิธีเวียนเทียนตามวัดต่างๆ ตามประเพณี ที่ชาวพุทธปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน เนื่องจากในวันนี้เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ

วันเข้าพรรษา แปลว่า “พักฝน” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาลมีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือนในฤดูฝน

นายกองเอกปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าฯ จ.อุดรธานี กล่าวว่า กิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าทอไทย ด้วยการสวมใส่ผ้าทอไทยร่วมกิจกรรมสำคัญ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานีให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ด้วยการถ่ายภาพประทับใจขณะสวมผ้าไทยร่วมทำบุญตักบาตร

สำหรับวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก เรียกว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ จึงถือเป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง พุทธศาสนิกชนจึงแห่เข้าวัดทำบุญวันอาสาฬหบูชากันคึกคัก เชื่อจะได้บุญกุศลมหาศาล

เวลา 07.00 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมประกอบพิธีสงฆ์ โดยมีพระธรรมโมลี เจ้าคณะ จ.สุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้น อธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมด้วยนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผวจ.สุรินทร์ และนายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายก อบจ.สุรินทร์ นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนนักศึกษาและพสกนิกรทั่วไป ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้างแห่งเดียวในโลก จำนวน 40 เชือก ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2562” ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลเมืองสุรินทร์ และ ททท.สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกันจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2562และเป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 13 เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณี อันดีงามของชาวไทย รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

สำหรับ พิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งบนหลังช้างออกรับบิณฑบาตจากนักท่องเที่ยว โดยมีพระธรรมโมลี เจ้าคณะ จ.สุรินทร์ และพระราชวิสุทธิมุนี (หลวงตาเยื้อน ขันติพะโล) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายธรรมยุต นำนั่งช้างเชือกแรกออกรับบิณฑบาต จากประชาชนที่ยืนอยู่บนอัฒจันทร์ รอบบริเวณอนุสาวรีย์ ท่ามกลางประชาชนทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ให้ความสนใจสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นไปบนอัฒจันทร์ เพื่อร่วมพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้างแห่งเดียวในโลก รับวันเข้าพรรษานับพันคน ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างยิ่ง

ขณะที่ บรรยากาศวันอาสาฬหบูชา บริเวณซอยบาง ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และชาวเนปาล จ.ภูเก็ต ต่างออกมาทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ จำนวน 69 รูป เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเทศบาลเมืองป่าตอง ร่วมกับโรงพยาบาลป่าตองและชมรมสถานบันเทิงหาดป่าตองจัดขึ้น โอกาสนี้ยังได้มีการทอดผ้าป่า เพื่อโรงพยาบาลป่าตองด้วย โดยมีพระครูวิสุทธิ์กิตติยาภรณ์ (หลวงพ่อบุญเติม ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดกิตติสังฆาราม (วัดกะตะ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นอกจากนี้ยังมีนางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง, คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองป่าตอง, สมาชิกสภาฯ ตลอดพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ป่าตองเข้าร่วมจำนวนมาก

สำหรับวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หมายถึง การบูชาในเดือน8หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน8นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา ด้วยเป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง5ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย