มาเลย์ขู่ร้อง ‘ดับเบิลยูทีโอ’ ปมอียูเลิกใช้น้ำมันปาล์ม

มาเลย์ขู่ร้อง ‘ดับเบิลยูทีโอ’ ปมอียูเลิกใช้น้ำมันปาล์ม

มาเลเซียเตรียมร้ององค์การการค้าโลก ภายใน พ.ย. นี้ เพื่อคัดค้านความเคลื่อนไหวของ "อียู" ที่จะเลิกใช้น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิงขนส่งในเครือข่าย 28 ประเทศสมาชิกอียู

นางเทเรซา ก๊อก รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมพื้นฐานมาเลเซีย แถลงวันนี้ (15 ก.ค.) ว่า สำนักงานอัยการมาเลเซียกำลังเตรียมเอกสาร เพื่อยื่นข้อร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ภายในเดือน พ.ย. นี้ เพื่อคัดค้านความเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะเลิกใช้น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิงขนส่งใน 28 ประเทศสมาชิก

“มันจะเป็นเรื่องที่ดีทางยุทธศาสตร์สำหรับมาเลเซีย หากอินโดนีเซียจะร่วมยื่นร้องเรียนด้วย” นางก๊อกเสริม

เมื่อต้นปีนี้ กรรมาธิการยุโรป (อีซี) ตัดสินใจจะลดแบบเป็นขั้นตอนจนหมด การใช้น้ำมันปาล์มเป็นเชื้อเพลิงสำหรับการคมนาคมขนส่งใน 28 ประเทศของอียู หลังได้ข้อสรุปว่า การเพาะปลูกปาล์มน้ำมัน ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่ามากเกินไป

การตัดสินใจของอีซีส่งผลให้มาเลเซียขู่จะร้องคัดค้านต่อดับเบิลยูทีโอ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่า อียูเสี่ยงที่จะเปิดสงครามการค้ากับมาเลเซียจากนโยบายที่จะลดใช้น้ำมันปาล์ม ซึ่งเขาระบุว่า “ไม่เป็นธรรมอย่างมาก”

มาเลเซียเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากอินโดนีเซีย สามารถทำรายได้จากอุตสาหกรรมนี้ปีละหลายพันล้านดอลลาร์ และสร้างงานหลายแสนคน

อย่างไรก็ดี กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวหาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันว่า เป็นตัวการของการตัดไม้ทำลายป่าอย่างมหาศาล เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ