ขยะอุตสาหกรรมลักลอบทิ้งที่สระแก้ว เตรียมถูกขนย้ายกลับบริษัทต้นทาง

ขยะอุตสาหกรรมลักลอบทิ้งที่สระแก้ว เตรียมถูกขนย้ายกลับบริษัทต้นทาง

คณะทำงานกำกับ ควบคุมและดูแล การขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว มีมติให้ขนย้ายขยะอุตสาหกรรมกว่า 300 ตัน กลับไปบริษัทต้นทางใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันพรุ่งนี้

นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น เปิดเผยว่า วันนี้ ที่ประชุมคณะทำงานกำกับ ควบคุมและดูแล การขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่ ได้มีมติให้มีการขนย้ายขยะอุตสาหกรรมดังกล่าวออกจากพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งขั้นตอนการขนย้ายเป็นหน้าที่ของบริษัทเจ้าของขยะต้นทางในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยจะใช้รถบรรทุกประมาณ 20 คันดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน 

นายปราชญากล่าวอีกว่า ทางอบต.ได้ประสานกับบริษัทแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่และคณะทำงานเข้าไปดูแลการขนย้ายตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง รวมทั้งมีการชั่งน้ำหนักด้วย เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงนำขยะไปไว้ในพื้นที่อื่น

ขยะอุตสาหกรรมและขยะอิเล็กทรอนิกส์จากพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี ถูกพบเอามากองไว้เพื่อคัดแยกและทิ้งบริเวณพื้นที่เขตป่าโซน C เขาซับพลู-เขาพลูหีบ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน จนมีปริมาณมากถึงกว่า 300 ตัน อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งหลักจากที่มีการเปิดเผยตามสื่อต่างๆ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสอบสวน และทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและกระทรวงอุตสาหกรรมได้สั่งปิดบริษัทต้นทาง 30 วัน และสั่งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 

ส่วนการดำเนินการภายหลังขนย้าย เมื่อมีการขนย้ายขยะอุตสาหกรรมเหล่านี้ออกไปหมดแล้ว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ให้ทางอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นหน่วยงานในการแก้ไขที่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าเก็บดิน เก็บน้ำ ไปตรวจอีกครั้ง เพื่อดูว่า มีสารปนเปื้อนหลงเหลืออยู่หรือไม่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้เกิดความสบายใจและหายวิตกกังวล

พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น กล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วถึง 6 คดีว่า ขณะนี้มีความคืบหน้า โดยฝ่ายผู้เสียหายจะมีอุตสาหกรรม ป่าไม้ กรมน้ำบาดาล ตำรวจเรื่องการจ้างแรงงาน และอำเภอ รวม 6 คดี ซึ่งรับเรื่องไว้หมดแล้ว โดยจะมีการสอบพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและรอผลตรวจพิสูจน์ 

หากพบการทำผิดเพิ่มเติมก็จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มอีก ในทางคดีถ้ามีผู้เกี่ยวข้องมาร้องทุกข์เพิ่มเติม ทางตำรวจก็ยินดีที่จะเร่งรัดดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ส่วนการสอบสวนสาวไปถึงกำนันหรือนักการเมืองท้องถิ่นด้วยหรือไม่นั้น ถ้ามีพยานหลักฐานไปถึง ก็จะดำเนินการทั้งหมด

ขณะที่ นายสมศักดิ์ กรึงไกร หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า การดำเนินคดีเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีขยะอันตรายหรือไม่ ทางอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างขยะที่ตรวจพบในวันที่ 8 ก.ค.ส่งให้ศูนย์วิจัยมลพิษภาคตะวันออก จ.ชลบุรี แล้ว รอเพียงผลตรวจประมาณ 2 สัปดาห์ 

ถ้าผลออกมาว่าเป็นขยะอันตรายตาม พรบ.วัตถุอันตราย เราจะแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ 200,000 บาท จำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ  

ทางด้านนางสาวเสริมสวย วงษ์วิชา ในฐานะแพทย์ประจำตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านและสัมผัสกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ขยะมลพิษจะได้ออกไปจากตำบลเราซะที ไม่อยากให้มีขยะมาอีกแล้ว เพราะขยะมลพิษตรงนี้เข้ามาในหมู่บ้านโดยที่คนในตำบลไม่รู้เรื่อง แม้แต่กำนันตำบลตาหลังในก็ไม่รู้ 

“พอดีขยะตรงนี้ไม่ได้ผ่านเข้ามาในตำบลแบบตรง ๆ แต่ลักลอบขนเข้ามาทางบ้านซับพลู เขต อ.วังน้ำเย็น แล้วมาทิ้งในพื้นที่เขตรอยต่อตำบลเรา ถ้าไม่มีใครไปพบก็ไม่มีใครรู้เลย ซึ่งชาวบ้านไปพบเข้า เรื่องจึงแดงขึ้นมา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่แน่นอน โดยเฉพาะพี่น้องหมู่ 8 ต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก บริเวณนั้นเป็นต้นน้ำ ที่ชาวบ้านใช้น้ำตรงนั้น หมู่อื่น ๆ ก็จะมีผลกระทบเหมือนกัน” นางสาวเสริมสวยกล่าว