“เลขาพท.” เผยวางตัวคนอภิปรายนโยบายไว้แล้ว ยันไม่มีการตีรวน “ฝ่ายค้าน” จ่อทวงถามสัญญาพรรคร่วมรัฐบาล เรียงหน้าอภิปรายความเหมาะสมคุณสมบัติ นายกฯ-รมต. อุบดัน "ชัชชาติ" ลงชิงผู้ว่าฯ กทม.
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ครั้งแรกเพื่อเตรียมการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า เป็นภารกิจของพรรคพท.ที่เป็นแกนนำฝ่ายค้านที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องของงานสภา ตามกำหนดการณ์วันที่ 16 กรกฎาคมนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน จากนั้นคาดว่าจะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเราจะอภิปรายในช่วงวันที่ 25-27 กรกฎาคม จากนี้ไปจนถึงวันอภิปรายถือว่าเหลือเวลาไม่มาก ฉะนั้น ในระยะเวลาอันจำกัด พรรคต้องมีการประชุมหารือเพื่อเตรียมการในการอภิปรายดังกล่าว
เมื่อถามว่า การเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทักท้วงมีอะไรบ้าง น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนในขณะนี้คือ สภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย รวยกระจุก จนกระจาย จนปัญหาเกิดขึ้นทั่วประเทศ เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วเราจึงควรมีรัฐมนตรีมาทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน เราจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบในทุกเรื่อง ซึ่งหลังจากการแถลงนโยบายแล้วการบริหารงานจะเป็อีกเรื่องหนึ่งที่ทางฝ่ายค้านให้ความสำคัญ ทั้งนี้ ได้มีการวางตัวบุคคลที่จะอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ต่อรับสภาไว้แล้ว ยืนยันว่าจะไม่มีการตีรวน และจะขอหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันในเร็ววันนี้ด้วย ขณะเดียวกันก็จะรอรัฐบาลส่งรายละเอียดของนโยบายมาด้วยเพื่อจะได้พิจาณรารายละเอียดว่าต้องอภิปรายในเรื่องใดบ้าง โดนตนจะเป็นหนึ่งในผู้อภิปรายที่จะพูดถึงภาพรวมทั้งหมดของนโยบายว่าเป็นไปตามที่หาเสียงกับประชาชนหรือไม่
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นประเด็นที่ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลต่างเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งหากได้ข้อตกลงชัดเจนก็น่าจะเดินหน้าแก้ไขในบางมาตราได้ แต่สิ่งสำคัญต้องขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งประเทศว่าจะเห็นชอบ และเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ หรือไม่ ส่วนกรณีที่มีผู้เสนอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเรี่องคุณสมบัติรับมนตรีบางรายนั้น กรณีนี้เป็นหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาว่า รัฐมนตรีท่านนั้นๆมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ และต้องตอบข้อสงสัยของประชาชนให้ได้ ซึ่งหากตอบไม่ได้ จะทำให้ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านสงสัย และประเด็นนี้จะเป็นปัญหา และต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมาหานคร ซึ่งมีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐได้มีการเทียบเชิญนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าจังหวัดพะเยาให้มาลงสมัครผู้ว่ากทม.ในนามของพรรคนั้นได้วางตัวบุคคลใดไว้หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้พึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และตอนนี้ให้ความสำคัญกับการแถลงนโยบายของรัฐบาล แต่ยังไม่มีรายชื่อชัดเจน ในส่วนของตัวบุคคลของพรรคจะต้องหารือเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง แต่จะเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่มีกระแสตอบรับจากคนกรุงเทพหรือไม่นั้น ยืนยันว่าพรรคพร้อมที่จะสนับสนุนคนเก่งคนดี และนายชัชชาติ ก็เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถ
อย่างไรก็ตามไม่กังวลว่าจะเป็นการตัดคะแนนกันหากอนาคตใหม่ส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่ากทม.ด้วยโดยพรรคมองว่าเป็นความชอบธรรมที่แต่ละพรรคสามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย