ไล่ออก! สารวัตรปราบปราม เมายาไอซ์ คลุ้มคลั่ง ตร.หิ้วตัวฝากขังศาล

ไล่ออก! สารวัตรปราบปราม เมายาไอซ์ คลุ้มคลั่ง ตร.หิ้วตัวฝากขังศาล

ไล่ออก! สารวัตรปราบปราม จ.ลำปาง หลังถูกจับกุมเนื่องจากเมายาไอซ์ คลุ้มคลั่ง ตร.หิ้วตัวฝากขังศาล

จากกรณี พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สน.วัดพระยาไกร ร่วมกันสอบปากคำ พ.ต.ต.อาชันธ์ นันตะกูล สวป.สภ.บ้านเอื้อม จ.ลำปาง หลังถูกจับกุมในข้อหามีสารเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.จักราวุธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งภายในห้อง 305 ชั้น 3 หอพักราณี เฮ้าส์ ซ.เจริญกรุง 80 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กทม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามและฝ่ายสืบสวนนำกำลังไปตรวจสอบพบว่ามีชายอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งพูดจาเสียงดังเอะอะ โวยวาย จึงเข้าควบคุมเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนตรวจสอบตามร่างกายพบยาเสพติดประเภท ประเภท 1 (ไอซ์) บรรจุซองใส น้ำหนักประมาณ 1.55 กรัม อยู่ในกระเป๋ากางเกงหน้าขวา และพบยาประงับประสาทจากรพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ พร้อมได้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเอื้อม จ.ลำปาง แต่ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงได้จึงคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ภายในห้องกักขังที่สน.วัดพระยาไกร

พ.ต.อ.จักราวุธ กล่าวต่อว่า ภายหลังการสอบปากคำนาน 2 ชั่วโมง ผู้ต้องหายังไม่การวกไปวนมาจับใจความไม่ค่อยได้ ทราบว่า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมีความเครียด เข้ารักษาตั้งแต่ปี 2555 ที่รพ.สวนปรุง โดยวันที่ 10 ก.ค. ลาราชการเดินทางมากทม. เข้าพักหอพักดังกล่าวเป็นแบบรายเดือน เพื่อมากู้ยืมเงินสหกรณ์ตำรวจ ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงจะนำตัวฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ทำการจับกุมพ.ต.ต.อาชันธ์ นันตระกูล สวป.สภ.บ้านเอื้อม จว.ลำปาง พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) จำนวน 2 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถึงประมาณ 1.55 กรัม และตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ

โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) โดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2562 เวลา 21.30 น. ที่หอพักแห่งหนึ่ง แขวงและเขตบางคอแหลม กทม.โดยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อม คำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวออกราชการไว้ก่อนแล้ว ประกอบกับ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่ง 1212/2537 เนื่องจากปล่อยปะละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิด

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวน ขยายผล จับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กระทำความผิดกฎหมายเสียเอง เรื่องอย่างนี้ต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสีย ชื่อเสียงขององค์กรและขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องตำรวจ ที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีข้อสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้กระทำผิดกฎหมายหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเสียเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

อีกทั้ง ยังได้มอบนโยบายในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของยาเสพติดอยู่แล้ว เช่น โครงการตำรวจสีขาว และ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดทั้งในเวลาราชการและนอกราชการ ซึ่งอาจมีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมาย