'วิษณุ' ไม่หวั่นถูกจองกฐินซักฟอก ปม 'แปลงสัมปทานโทรคมนาคมฯ'

'วิษณุ' ไม่หวั่นถูกจองกฐินซักฟอก ปม 'แปลงสัมปทานโทรคมนาคมฯ'

“วิษณุ” เผยไม่มีปัญหา “เรืองไกร” ยื่นสอบคุณสมบัติ ปมแปลงสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต ยุค “ทักษิณ” โวเบาใจด้วยซ้ำถูกจองกฐิน อภิปราย ยันไร้มลทิน ชี้ทางการเมืองไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติผู้เกี่ยวข้องในช่วงที่ร่วมในคณะรัฐมนตรีชุดนายทักษิณ ชินวัตร ออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) แปลงสัญญาสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตโดยมิชอบ ซึ่งมีชื่อนายวิษณุด้วยนั้น ว่าไม่เป็นไร อะไรที่เป็นสิทธิก็หมายความว่าเป็นเรื่องของคนนั้น เขาทำได้ ไม่มีปัญหาหรอก เขาก็ยื่นอยู่ทุกวัน ทุกเรื่องอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ซึ่งมีชื่อท่านอยู่ด้วย นายวิษณุ กล่าวว่า ก็รับทราบ ขอบคุณที่บอกจะได้เตรียมตัว ไม่มีอะไรหนักใจ เบาใจด้วยซ้ำ ซึ่งการจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น จะเป็นขั้นตอนต่อไปหลังจากมีการแถลงนโยบายต่อสภาแล้ว

เมื่อถามว่าจะทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้นหรือไม่ เพราะเพียงแค่เริ่ม ก็จองกฐินจะอภิปรายกันแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นอย่างนี้มาทุกยุค ทุกสมัยอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา เกมอะไรก็ตามที่เข้าไปอยู่ในสภา ก็ต้องว่ากันตามเกม กติกานั้น มีข้อบังคับการประชุม มีประธาน และหากมีพาดพิงก็ลุกขึ้นอภิปรายได้ เป็นเรื่องธรรมดาปกติ ไม่มีปัญหา ตนไม่เคยเป็นสมาชิกสภาที่มาจากเลือกตั้ง แต่เคยเป็นสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งก็อยู่ร่วมกับสภาเลือกตั้งในช่วงที่มีการแถลงนโยบาย ก็เห็นมาอย่างนี่หลายยุค หลายสมัย ดังนั้นไม่แปลกเลย และประชาชนก็ไม่ควรไปตื่นเต้น ตกใจอะไร ก็ช่วยทำใจสนุกไปตามนั้นก็แล้วกัน

“สำหรับผมไม่มีปัญหา และไม่ได้เตรียมอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องเตรียมหรอกเพราะนายเรืองไกร ไม่สามารถไปพูดอะไรสภาได้อยู่แล้ว ถ้าใครพูด ใครถามก็จะตอบ ยืนยันไม่มีมลทิน ไม่มีอะไรมัวหมอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็รู้กันอยู่ กติกา หรือเกมหรือขั้นตอนในทางการเมืองมันมีอะไรบ้าง ก็ทราบกันทั้งนั้น ตรงนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ ไม่ใช่เกมในความหมายของวิชามาร เป็นหน้าที่เมื่อสงสัยก็ถาม ซึ่งก็คือกระทู้ เมื่อถามแล้ว ตอบแล้วไม่มั่นใจ ไม่เชื่อก็นำไปสู่การเปิดอภิปราย ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา และไม่เคยห่วงจะนำเอาออกไปข้างนอก ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวนะ แต่ในทางการเมืองเขาก็ไม่ได้กลัวอะไรกันเลยอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าท้าทาย หรือไม่ยี่หระ หรือไม่สะทกสะท้าน แต่ทุกคนทำไปตามหน้าที่ของตัวเท่านั้น หลักมันอยู่มีอยู่แค่นี้ เมื่อเขาถามเราก็ตอบ เมื่อเขาเข้าใจผิดเราก็ชี้แจง เมื่อไม่เชื่อก็มีวิธีการอื่นที่เขาจะดำเนินการต่อไป ส่วนจะชี้แจงผ่านสื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ว่าควรจะใช้วิธีใด” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า นายเรืองไกร อาจเรียกร้องให้เคลียร์เรื่องนี้ให้สาธารณชนเกิดความกระจ่าง นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ได้เรียกร้องตนคนเดียว ไม่เป็นไร เขายื่นร้องใครก็เป็นเรื่องของคนนั้นที่จะชี้แจงไป เมื่อถามถึงกรณีรัฐมนตรีที่มีคดีแต่ยังไม่ได้ตัดสิน ได้มาปรึกษาแนวทางต่อสู้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่มีใครมาปรึกษา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเราได้รัฐบาลแล้วก็ต้องเรียกความเชื่อมั่น แต่เมื่อเป็นอย่างนี้จะทำให้กระทบไปถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาหรอก ต่างประเทศเขาเข้าใจดี เพราะกติกาแบบนี้ก็เคยเกิดในต่างประเทศ ไม่ต่างกันเลย