รีบาวด์ในกรอบจำกัด

รีบาวด์ในกรอบจำกัด

ดัชนีวานนี้ปิดลบ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลง เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ช่วยหนุน และนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน

พร้อมกับจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของ ธปท. และ กกร. และถ้อยแถลงของเฟด ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ดี  นักลงทุนต่างชาติพลิกสถานะเป็นซื้อสุทธิ 1,864.8 ลบ. ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,721.48 จุด (-9.55 จุด) Volume 6.5 หมื่นลบ. TFEX Net +3,680 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -4,625 ลบ.

ปัจจัยบวก/ปัจจัยลบ

+น้ำมัน WTI ปิดบวก 17 เซนต์ +0.3% ปิด 57.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามการปรับลดการผลิตของโอเปก และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

+FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นลท.ยังคงคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค.

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 5.2 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.80 บาท/US

-ดาวโจนส์ปิดลบ 22.65 จุด -0.08% เนื่องจากนักลงทุนจับตาประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส

 -สหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน(JOLTS)ในเดือนพ.ค.ลดลง 49,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.3 ล้านตำแหน่ง

-ปธน.ทรัมป์ระบุว่าสหรัฐจำเป็นต้องตอบโต้ทางการค้าต่ออินเดียหลังจากอินเดียเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ทั้งนี้ อินเดียได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้าสหรัฐหลังถูกตัด GSP

-การประชุมกกร.วันนี้มีแนวโน้มพิจารณาปรับลดประมาณการ GDP จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.7-4% และคาดการณ์ส่งออกขยายตัว 3-5%

*จับตาการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ธปท.และ FED รายงานนโยบายการเงิน และจีนเผยดัชนี CPI, PPI เดือนมิ.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ในกรอบจำกัด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด นักลงทุนยังคงจับตาแถลงการณ์นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีของเฟดต่อสภาภาคองเกรสในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ ขณะที่ปจจัยในประเทศยังติดตามการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,715-1,725 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท (TOA MGT SMIT) ,หุ้นที่ได้ประโยชน์จากผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (SYNEX HANA COM7 TVO)  ,หุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30 ORI) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (STEC CK STPI) ,หุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA PSL RCL AMA)

หุ้นรายงานพิเศษ

MGT (ราคาปิด 1.85 ราคาเหมาะสม อยู่ระหว่างจัดทำบทวิเคราะห์)

  • คาดผลประกอบการ 2Q19 มีแนวโน้มอ่อนตัวเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบ QoQ เนื่องจากเป็น Low Season ของธุรกิจ ประกอบกับมีรายการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานอีกราว 3.2 ล้านบาท แต่ยังคงเติบโต YoY เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย Megachem Plus ที่รับโอนกิจการเมื่อ ก.ค.18 ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น
  • ส่วนทิศทางผลประกอบการปี 19 เราคาดว่าจะเติบโตโดดเด่นหลังการ Synergy ระหว่าง Megachem Plus โดย MGTจะรับรู้รายได้จาก Megachem Plus เต็มปีเป็นครั้งแรก ประกอบกับปีนี้จะไม่มีการรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทร่วม VTL ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตหมอนยางพาราอีกต่อไป หลังจากยกเลิกกิจการและตั้งด้อยค่าไปเรียบร้อยแล้วใน 4Q18

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก

ตลาด mai /อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

ARIN (ราคา IPO 1.80 บาท)

  • บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ และอาคารห้องชุดภายใต้แบรนด์ “อรินสิริ” ในพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น จังหวัดชลบุรีและระยอง ณ 31 มี.ค. 2562 มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาและขาย 3 โครงการ มูลค่ารวม 2.2 พันลบ. ได้แก่ โครงการอรินสิริ สปอร์ต วิลเลจ มูลค่าโครงการ 1.3 พันลบ. โครงการอรินสิริ คันทรี ฮิลล์ มูลค่าโครงการ 502 ลบ. และโครงการอรินสิริ ไพรเวซี่ มูลค่าโครงการ 360 ลบ.
  • ผลการดำเนินงานปี 61 มีกำไรสุทธิ 26 ล้านบาท ลดลง 30% เนื่องจากรายได้ลดลง 2.5% จากจำนวนหน่วยที่โอนของโครงการอรินสิริ สปอร์ต วิลเลจ เฟส 1 ที่เริ่มโอนตั้งแต่ปี 59 เหลือน้อย งวด 1Q62 มีกำไรสุทธิ 2.86 ล้านบาท ลดลง 74% เนื่องจากรายได้รวมลดลง 28%YoY อัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 31.4% จาก 34.5% ใน 1Q61 อัตรากำไรสุทธิ 4% ลดลงจาก 10.7% ใน 1Q61
  • จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท มูลค่าเสนอขาย IPO 270 ล้านบาท นำมาใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้
  • ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 60.04 เท่า เทียบกับ PE เฉลี่ยหุ้น mai 44.6 เท่า PE กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในตลาด mai ที่ 28.4 เท่า

หุ้นมีข่าว   

·      (+) TRC (ราคาปิด 0.16 Bloomberg Consensus 0.13) เผย"สหการวิศวกร"เซ็นรับงานใหม่ 2 โครงการของกรมทางหลวงมูลค่ารวม 926.70 ลบ. (ที่มา อินโฟวเควส์)

·      (-) CCET เผยยอดขายเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 273.58 ล้านเหรียญฯ ลดลง 4.1% จากงวดปีก่อนและเดือนพ.ค.(ที่มา อินโฟวเควส์)

·      + BEC (ราคาปิด 9.55 Bloomberg Consensus 9.23)  พิจารณาเงินชดเชยเบื้องต้น ช่อง 3 Family จำนวน 162.54 ล้านบาท และช่อง 3 SD จำนวน 680.08 ล้านบาท รวมกว่า 842.62 ล้านบาท ส่วน MCOT Family รับชดเชย 163.29 ล้านบาท บอร์ดกสทช.อนุมัติเงินชดเชยช่องวอยซ์ทีวี 378.05 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + TQM ชงบอร์ดเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น หลังต่างชาติสนใจเพียบ ด้านที่ปรึกษาทางการเงินเห็นด้วย เพื่อยกระดับหุ้นขึ้นเป็น “ซูเปอร์สต๊อก” เผยหุ้นนับจากเข้าซื้อขายเมื่อ 20 ธ.ค.61 วิ่งขึ้นแล้ว 92.39% วนปีนี้เบี้ยจะเกินเป้า 1.26 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + SORKON มั่นใจผลงานปีนี้โตต่อเนื่อง หลังครึ่งปีแรกรายได้โต 8% เร่งเดินหน้าขยายฐานลูกค้า ล่าสุดจับมือ “โชนัน” ส่งวัตถุดิบปรุงอาหารญี่ปุ่น เจาะตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + EASTW (ราคาปิด 13.30 Bloomberg Consensus 15.10)  โชว์ยอดขายน้ำดิบ 5 เดือนแรก พุ่ง 132.77 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งเป้าปี 62 ยอดขายน้ำดิบแตะ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ด้าน ทริส เรทติ้ง คงอันดับเครดิต EASTW ที่ระดับ A+ สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      + PTTGC (ราคาปิด 61.50 Bloomberg Consensus 75.79)  ลั่นยอดขายเม็ดพลาสติกครึ่งหลังปีนี้เพิ่ม ชูดีมานด์ส่งออกจีนพุ่งหลังสงครามทางการค้า หนุนราคาขายเพิ่มขึ้นอีก 30-40 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เตรียมชงบอร์ดลงทุนโรงงานรีไซเคิลที่ระยอง ภายในก.ค.นี้ ล่าสุดประกาศความร่วมมือกับ SIRI นำนวัตกรรมเคมีภัณฑ์พัฒนาเฟอร์นิเจอร์รักษ์โลกสู่โครงการอสังหาฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      JASIF แจ้งการลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานประเภททรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ราคาไม่เกิน 38,000 ล้านบาท โดยซื้อจากบมจ. ทริปเปิลที บรอดแบนด์  (TTTBB) โดยจะใช้เงินเพิ่มทุนและเงินกู้ยืม (ที่มา SET NEWS)