เอไอดันศก.โลกพุ่ง15.7ล้านล้านดอลล์

เอไอดันศก.โลกพุ่ง15.7ล้านล้านดอลล์

พีดับลิวซี แนะธุรกิจวางมาตรการใช้งาน-ซีอีโอรับต้องปรับธุรกิจครั้งใหญ่

พีดับบลิวซีประเมิน “เอไอ”สร้างมูลค่าเศรษฐกิจโลกพุ่ง 15.7 ล้านล้านดอลล์ ดันจีดีพีโลกแตะ 14% ภายในปี 73 แนะองค์กรธุรกิจวางแนวทางใช้ไอเออย่างรับผิดชอบ เผยที่ประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ชี้เอไอเป็นหนึ่งในหัวข้อผู้บริหารระดับสูงองค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญ ยอมรับ เอไอ คือ จุดเปลี่ยนสำคัญการทำธุรกิจอนาคต

รายงานข่าวจาก ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ หรือ พีดับบลิวซี (PwC) ได้คาดการณ์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ โดยระบุว่า อาจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 15.7 ล้านล้านดอลลาร์ และภายในปี 2573 มีส่วนดันให้จีดีพีโลกโตเพิ่มขึ้น 14% แต่ตัวเลขคาดการณ์นี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อองค์กรมีแนวทางปฏิบัติด้านเอไออย่างมีความรับผิดชอบ

พีดับบลิวซี ระบุว่า การพัฒนาและบูรณาการเอไอทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญความเสี่ยง องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องเข้าใจ รวมถึงมีการพัฒนาและบูรณาการแนวทางปฏิบัติด้านเอไออย่างมีความรับผิดชอบ ครอบคลุมมิติทั้งห้าที่องค์กรต่างๆ ต้องนำมาปรับใช้ในการวางกลยุทธ์ ออกแบบ การพัฒนา และการใช้งานเอไอ ได้แก่ ธรรมาภิบาล จรรยาบรรณ และระเบียบข้อบังคับ ความสามารถตีความและอธิบาย ความแข็งแกร่งและความมั่นคงปลอดภัย รวมถึงอคติและความยุติธรรม

มิติเหล่านี้เน้นที่การวางแผนเชิงกลยุทธ์และธรรมาภิบาลในการพัฒนาเอไอ เพื่อรับมือกับความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความยุติธรรม ความน่าเชื่อถือ และความรับผิดชอบ

ขณะที่ รายงาน Responsible AI Toolkit ของพีดับบลิวซี ระบุว่า ซีอีโอ 85% กล่าวว่าเอไอ จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจของพวกเขาอย่างมากในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ 84% ยอมรับว่าการตัดสินใจโดยอิงเอไอต้องอธิบายเหตุผลของการตัดสินใจได้จึงจะมีความน่าเชื่อถือ

ขณะที่ ประชุมเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ที่เมืองต้าเหลียน สาธารณรัฐประชาชนจีน นายอนานด์ ราโอ หัวหน้าฝ่ายเอไอ ระดับโลกของพีดับบลิวซี สหรัฐ กล่าวว่า จรรยาบรรณและความรับผิดชอบเกี่ยวกับเอไอเป็นประเด็นที่ผู้นำธุรกิจส่วนใหญ่กังวล บรรดาผู้บริหารระดับสูงจำเป็นต้องขับเคลื่อนและมีส่วนร่วมในการบูรณาการกลยุทธ์การพัฒนาเอไออย่างมีความรับผิดชอบและมีจรรยาบรรณ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับการพลิกโฉมธุรกิจ สังคม หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะนำมาซึ่งความเสี่ยงในแง่ชื่อเสียง การดำเนินการ และการเงิน

รายงานของพีดับบลิวซี ประกอบด้วยแบบสำรวจเพื่อการวินิจฉัย ซึ่งช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถประเมินความเข้าใจและการใช้แนวทางปฏิบัติด้าน เอไออย่างมีความรับผิดชอบและมีจรรยาบรรณ โดยสำรวจจากผู้ที่มีส่วนในการพัฒนาและการใช้งานเอไอราว 250 คน รวมถึงผู้บริหารระดับสูง เม่ื่อช่วง พ.ค.-มิ.ย.62 ที่ผ่านมา

ผลการประเมินเผยให้เห็นถึงความไม่พร้อมและความไม่สอดคล้องในด้านความเข้าใจ และแนวทางปฏิบัติด้านเอไออย่างมีความรับผิดชอบและมีจรรยาบรรณ มีเพียง 25% ที่ระบุว่าจะคำนึงถึงจรรยาบรรณของการใช้งานเอไอ เป็นอันดับแรกก่อนใช้งาน มีเพียง 1 ใน 5 หรือราว 20% ที่มีกระบวนการระบุความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเอไออย่างชัดเจน และกว่า 60% ต้องพึ่งพานักพัฒนา กระบวนการที่ไม่เป็นทางการ หรือไม่มีกระบวนการที่ชัดเจนแต่อย่างใด

ผู้ตอบแบบสำรวจ 56% ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาต้นเหตุหากเอไอขององค์กรเกิดข้อผิดพลาด และเกินครึ่งไม่มีแบบแผนในการประเมินอคติของเอไอ เพราะขาดความรูู้ เครื่องมือ และความสามารถในการประเมิน

นายราโอ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอไอสร้างโอกาส แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านความน่าเชื่อถือ และความรับผิดชอบ การบรรลุผลสำเร็จการใช้งานเอไอ ต้องอาศัยกลยุทธ์และการวางแผนแบบบูรณาการทั้งในระดับบุคคล และองค์กร ผู้บริหารระดับสูงต้องทบทวนแนวทางปฏิบัติด้านเอไอในองค์กรทั้งปัจจุบันและอนาคต ตั้งคำถามเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบว่ามีการใช้กลยุทธ์ การควบคุม หรือการดำเนินงานต่างๆ ที่เพียงพอแล้วหรือยัง