'แกร็บ'หวังรัฐบาลปลดล็อกข้อ ก.ม.เล็งรุก“อีวอลเล็ต”

'แกร็บ'หวังรัฐบาลปลดล็อกข้อ ก.ม.เล็งรุก“อีวอลเล็ต”

“แกร็บ” รอลุ้นรัฐบาลใหม่ดันบริการถูกกฎหมาย เผยพร้อมให้ความร่วมมือ ชี้หากล่าช้าไทยจะสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ล่าสุดโชว์ความสำเร็จ 6 ปีในไทย มียอดเรียกใช้บริการรวมกว่า 320 ล้านครั้ง

“แกร็บ” รอลุ้นรัฐบาลใหม่ดันบริการถูกกฎหมาย เผยพร้อมให้ความร่วมมือ ชี้หากล่าช้าไทยจะสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ล่าสุดโชว์ความสำเร็จ 6 ปีในไทย มียอดเรียกใช้บริการรวมกว่า 320 ล้านครั้ง ครึ่งปีหลังเล็งสยายปีก “แกร็บฟู้ด” พร้อมจุดพลุอีวอลเล็ต “แกร็บเพย์” อย่างเป็นทางการ

หวังภาครัฐปลดล็อก ก.ม.

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันให้บริการของแกร็บไม่ขัดต่อกฎหมายประเทศไทยว่า ยังคงต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นจากที่ได้รับฟังการหาเสียงของหลายๆ พรรคการเมืองได้เห็นว่าต่างมีแนวคิดว่าจะสนับสนุน ส่วนของแกร็บหากรัฐบาลต้องการข้อมูลหรือให้ช่วยเหลืออะไรก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

“ถือเป็นเวลาที่ต้องหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่ทางออกที่วนอยู่กับที่ ต้องเป็นทางออกที่ไปข้างหน้า เราเองมีความคาดหวังว่าภาครัฐจะให้ความสำคัญ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เรื่องนี้หากล่าช้าอาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ฉุดรั้งการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงตัดโอกาสการสร้างรายได้ สร้างอาชีพของคนที่มีรายได้น้อย”

ขณะนี้ทางบริษัทยังไม่มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับพรรคการเมืองใด ส่วนการพูดคุยกับผู้ขับแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์มีมาบ้าง โดยเน้นการสร้างความเข้าใจ ข้อมูล และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจนวันนี้มีผู้ขับทั้งสองกลุ่มเข้ามาร่วมให้บริการบนแกร็บจำนวนมาก

สำหรับครึ่งปีหลัง แนวทางธุรกิจเน้นขยายบริการจัดส่งอาหาร “แกร็บฟู้ด” เป็นหลัก โดยจะทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ต่อยอดจากปัจจุบันที่ครองตำแหน่งผู้นำมีส่วนแบ่งการตลาดเกิน 50% นอกจากเหนือจากกทม. และหัวเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น พัทยา นครราชสีมา และหาดใหญ่ เป็นไปได้ที่จะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ด้วย มองว่าตลาดอยู่ในช่วงเริ่มต้น มีโอกาสเติบโตได้สูงและครึ่งปีหลังจะได้เห็นการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นไปอีก

ส่วนการขยายการให้บริการเรียกรถต่างๆ ยังคงอยู่ในฐานเดิมที่ 18 เมือง 16 จังหวัดต่อไปก่อน เพื่อรอให้กฎหมายมีความชัดเจน เมื่อถึงเวลานั้นคาดว่าจะสามารถขยายการให้บริการไปได้ทั่วประเทศ

จุดพลุ “แกร็บเพย์” 

นายธรินทร์เผยว่า กำลังเดินหน้าพัฒนาบริการเพื่อสร้างการเติบโตให้อีโคซิสเต็มส์ซูเปอร์แอพอย่างเต็มรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือบริการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด โดยแกร็บได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยเตรียมเปิดให้บริการอีวอลเล็ต “แกร็บเพย์” คาดว่าจะเริ่มให้บริการแบบทดลองได้ภายในเดือนก.ค.นี้ และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการช่วงปลายไตรที่ 3 หรือต้นไตรมาสที่ 4

พร้อมกันนี้ พัฒนาอีโคซิสเต็มส์การให้บริการให้เติบโตมากขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนต่างๆ ขยายการให้บริการที่ครอบคลุมไลฟสไตล์ ออนไลน์ทูออฟไลน์ รวมถึงขยายการลงทุนเพื่อขยายบริการสู่ตลาดต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบออนดีมานด์ การสั่งอาหาร ส่งของ ชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด ขณะเดียวกันให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองและจังหวัดอื่นๆ ให้ได้ใช้บริการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น

แกร็บเข้ามาให้บริการในประเทศไทยแล้ว 6 ปี ความสำเร็จที่ได้ รวมทั้งบริการการเดินทาง การส่งอาหารและส่งของมียอดเรียกใช้บริการกว่า 320 ล้านครั้ง พาร์ทเนอร์ผู้ขับขึ่จำนวนหลักแสนคนสามารถสร้างรายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ด้านพาร์ทเนอร์ร้านอาหารทั้งสตรีทฟู้ดจนถึงร้านอาหารที่มีสาขาเป็นจำนวนมากต่างมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการเพิ่มช่องทางการขายแบบดิจิทัลผ่านแกร็บฟู้ด

6ปีให้บริการ 1.2ล้านกิโลเมตร

สถิติระบุด้วยว่า ตลอด 6 ปี จำนวนระยะทางรวมที่แกร็บได้ให้บริการผู้โดยสารสูงถึง 1,200,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่สามารถเดินทางจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยได้ถึง 700,000 เที่ยว ลูกค้าที่ใช้บริการแกร็บมากที่สุดท่านหนึ่งได้ร่วมเดินทางกับบริษัทไปแล้วถึง 7,000 เที่ยว สั่งอาหารกว่า 670 ออร์เดอร์ ส่งพัสดุไปแล้ว 2,500 ชิ้น

ทั้งนี้ ด้วยผู้โดยสาร 1 ใน 3 ของเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตั้งแต่ปี 2560-2562 แกร็บให้บริการแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 5 ล้านคน จากประเทศต่างๆ เช่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย ทั้งได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้าเพื่อนำมาตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น

หลังจากนี้ บริษัทจะยังคงสนับสนุนพาร์ทเนอร์ร้านอาหารในการสร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้นด้วยการเพิ่มช่องทางขายดิจิทัลผ่านแกร็บ รวมถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ส่งอาหารและส่งของให้มีรายได้ที่ดีขึ้นหรือเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันร่วมเแก้ปัญหาขั้นพื้นฐาน เช่น ปัญหารถติดและมลภาวะ โดยการร่วมมือกับหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคมและสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริโภคที่สนับสนุนแกร็บมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ 8-24 ก.ค.นี้จัดแคมเปญพิเศษ มอบส่วนลดสำหรับบริการของแกร็บทั้งการเดินทาง สั่งอาหาร และส่งของ สูงสุดถึง 60% สำหรับลูกค้าใหม่ เพียงใส่โปรโมโค้ด ‘NEW6BDAY’ และสำหรับลูกค้าปัจจุบัน รับส่วนลด 60 บาท ด้วยการใส่โปรโมโค้ด ‘6BDAY’ โดยสามารถใช้ได้กับทุกบริการของแกร็บ พร้อมดีลสุดพิเศษจากแกร็บฟู้ดถึง 666 ดีล ส่วนลดแกร็บฟู้ดสูงสุดถึง 60% รวมไปถึงของรางวัลอีกจำนวนมากมูลค่ากว่า 17 ล้านบาท นับว่ามูลค่ารวมครั้งนี้สูงที่สุดนับจากที่เคยจัดแคมเปญการตลาดที่ผ่านมา