สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 1-5 กรกฎาคม 2562

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 1-5 กรกฎาคม 2562

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดช่วงบวกลงตามแรงขายในประเทศ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีในช่วงต้นสัปดาห์ที่ 30.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ กระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงต่อมา ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนบางส่วนจากแรงซื้อคืนเพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์

- ในวันศุกร์ (5 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 มิ.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (8-12 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.50-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงอื่นๆ ในระหว่างสัปดาห์ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ของจีน และทิศทางการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคการค้าส่งเดือนพ.ค. รวมถึงบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 18-19 มิ.ย.

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีหุ้นไทยกลับมาปิดปลายสัปดาห์ที่ 1,731.23 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 0.05% จากสัปดาห์ก่อน (แม้ว่าระหว่างสัปดาห์จะแตะระดับสูงสุดรอบ 9 เดือนครั้งใหม่ที่ 1,747.53 จุด) ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 70,177.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.55% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 0.25% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 364.48 จุด 

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ขานรับข่าวการกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ดี ตลาดเผชิญแรงกดดันในเวลาต่อมาตามปัจจัยการเมืองในประเทศและแรงขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและบัญชีหลักทรัพย์ ดัชนีฯ ฟื้นตัวขึ้นได้บางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (8-12 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,715 และ 1,700 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,745 และ 1,765 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ สถานการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ของจีน ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่น รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ของยูโรโซน