'ศรีวราห์' ลุยตรวจอ่างนาตารีเดิม หลังพบลักลอบเปิดบริการใหม่

'ศรีวราห์' ลุยตรวจอ่างนาตารีเดิม หลังพบลักลอบเปิดบริการใหม่

"ศรีวราห์" ลุยตรวจอ่างนาตารีเดิม หลังพบลักลอบเปิดบริการใหม่

จากกรณีนายบัญชา สืบกระพัน หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตดินแดง เข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.อ.สุจิน พรประภาพรชัย รอง สารวัตร (สอบสวน) สน.ห้วยขวาง หลังมีคนเช่าอาคารเปิดสถานบริการลิตเติ้ลดั๊ก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นอาคารเดิมของนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อาบอบนวด ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดงกรุงเทพฯตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั่น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางมาประชุมคดีดังกล่าวพร้อมหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงนายบัญชาและเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดินแดง นายสุรชัย พรหมรักษา จนท.ฝ่ายบริหารทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่และอาคาร พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทรสิทธิ รองผบก.ปทส. เจ้าหน้าที่ทหาร สน.ห้วยขวาง และทนายความจากบริษัทขุมทองรัชดาซึ่งเช่าช่วงต่อจากการรถไฟแห่งประเทศ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการประชุมหารือทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ใช้เวลาประชุมกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะนำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นร้านลิตเติ้ลดั๊ก โดยมี นายนพดล ทองบินทร์ อายุ 70 ปี คนรับจ้างรื้อถอนเป็นผู้นำตรวจค้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภายในอาคารมีการต่อเติมดัดแปลงอาคาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นร้านแมคซีซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ และตรวจค้นร้านคลีนิกหมอฟัน ไอวอรีพบว่าร้านแมคซีมีความผิดฐานรุกล้ำลำคลองด้วยพร้อมต่อเติมอาคาร ขณะที่คลีนิกหมอฟันนั่นไม่มีการรุกล้ำลำคลอง เพราะคลองโค้งออกไปก่อน แต่ด้านหลังอาคารมีการต่อเติมโดยผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีเพิ่มไปด้วย

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องนี้ ตนดูในภาพรวม จากการประชุมฝ่ายต่าง ๆ จะดำเนินคดีดังนี้คือ 1.การแจ้งความเท็จต่อตำรวจ หลังพบว่าทางร้านลิตเติ้ลดั๊กได้ยื่นขอต่อใบอนุญาตสถานบริการกับทางสว.ธุรการของสน.ห้วยขวาง ซึ่งในขณะนั้นคือ พ.ต.ท.สุนทร ไชยรักษา เพื่อส่งเรื่องต่อไปยังทางบช.น. ปรากฎว่าเอกสารที่ขอนั้นปลอม จึงมีความผิดในส่วนนี้ 2.ทางสำนักงานเขตดินแดงจะแจ้งความในส่วนของการต่อเติมอาคารด้านหลังที่บุกรุกคลอง ทางสาธารณะต้องแจ้งความกับทางบก.ปทส. รวมถึงการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขต แจ้งความสน.ห้วยขวาง และ 3.ส่วนของรฟท. ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่และอาคารในบริเวณดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งได้ปล่อยเช่า แต่ปรากฎว่ามีการนำไปให้เช่าช่วงต่อ โดยที่การรถไฟไม่ทราบเรื่อง ตามกฎหมายต้องมีหนังสือแจ้งรวมถึงการดัดแปลงซอยห้องก็ต้องขออนุญาตรฟท.ด้วย ในฐานะเจ้าของ เมื่อไม่มีการขออนุญาตถือเป็นความผิด ทำให้รัฐเสียหายขาดรายได้ รฟท.ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายแจ้งความต่อนายชูชีพ เอื้อวิบูลวัฒนาซึ่งอ้างเป็นผู้ดูแลอาคารลิตเติ้ล ดั๊ก ทางพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวางจะทำหนังสือให้รฟท.มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งการดำเนินคดีแจ้งความร้องทุกข์ทั้งหมดนี้จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า การตรวจค้นครั้งนี้ หากมีการขอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถดำเนินการต่อได้ ไม่ต้องหยุดก่อสร้างเพราะส่วนนี้มาจากคดีนาตารีที่เป็นคดีค้ามนุษย์พ่วงด้วยคดีฟอกเงิน แต่การปิดสถานที่ 5 ปี ตามคำสั่งคสช.นั้น เป็นคำสั่งที่ออกหลังจากเกิดเรื่องในคดีนี้จึงไม่คลอบคลุมให้สถานที่นี้ต้องปิด แค่ไปทำให้ถูกต้องและให้รัฐมีรายได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ตนยังสั่งการให้ทางบช.น.ดูใบขออนุญาตสถานบริการทั้งหมดในพื้นที่และดูการขออนุญาตก่อสร้าง เรื่องนี่ไม่ใช่การอุตริจับสถานบริการ แต่มีผลจากเรื่องค้ามนุษย์ หากประเทศไทยตกจากเทียร์2 ประเทศชาติก็จะได้รับความเสียหายอีก

นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ตรงนี้เป็นของรฟท.ตั้งแต่ปี 35 มีการเปิดให้เช่า ที่ผ่านมาไม่มีหนังสือจากผู้เช่าเลยว่ามีการให้เช่าต่อซึ่งหากมีหนังสือมา ทางรฟท.ต้องได้ค่าธรรมเนียมตามกฎหมายด้วย รวมถึงการดัดแปลงอาคาร ทางรฟท.เจ้าของพื้นที่ก็ไม่ทราบเรื่อง ถือเป็นการขัดสัญญาเช่าข้อ8 ทำให้รัฐเสียรายได้ ทางรฟท.จะแจ้งความกับทางผู้เช่าในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และจะมีโทษปรับตามกฎหมายด้วย

นายบัญชา กล่าวว่า ตามพรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 นั้น ตามมาตรา 21 การดัดแปลงอาคารต้องแจ้งทางเขต และมาตรา 32 การปรับเปลี่ยนประเภทอาคารก็ต้องแจ้งเขต แต่ทางร้านลิตเติ้ล ดั๊กไม่ได้ทำเลยสักมาตรา จะมีความผิดในมาตรา 65 มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยโทษจะต้องดำเนินการกับเจ้าของอาคารคือรฟท. โดยมีค่าปรับวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ ซึ่งรฟท.จะต้องดำเนินกับผู้เช่าอาคารต่อไปเป็นทอด ๆ

ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวมีผู้เช่าคือบริษัทขุมทองรัชดาก่อนมีการให้เช่าช่วงต่ออีก3-4ทอดทโดยร้านลิตเติ้ลดั๊กนั้น มีนายชูกิต จดทะเบียนส่วนบุคคลในนามร้าน