จำคุกผู้บริหาร 8 เดือน คดีตั้ง 'ม.สันติภาพโลก' สำนวนที่ 3

จำคุกผู้บริหาร 8 เดือน คดีตั้ง 'ม.สันติภาพโลก' สำนวนที่ 3

ศาลอาญาจำคุก 8 เดือน อดีตอธิการฯ WPU สาขา 2 พร้อมปรับ 8 หมื่นนายกสภากิตติมศักดิ์ ขณะที่ศาลเห็นนายกสภากิตติมศักดิ์อายุมากถึง 80 ปี ไม่เคยต้องโทษมาก่อน ให้โอกาสรอลงอาญา 1 ปี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สาขา 2 World Peace University (WPU ) สำนวนที่ 3 คดีหมายเลขดำ อ.513/2561 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศุภณัฐ ดอนจันทร์ อายุ 56 ปี อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก WPU สาขา 2 , นายเรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ อายุ 67 ปี นายกสภามหาวิทยาลัยฯ และ นายเอนก หิรัญรักษ์ อายุ 80 ปี นายกสภากิตติมศักดิ์ประเภทสภาวิชาการ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ามีหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 มาตรา 9, 10, 104, 121

โดยฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.- 21 ก.ค.56 จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันจัดตั้ง มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 ตั้งอยู่ที่ 2991/19 โครงการวิสุทธานี ซ.ลาดพร้าว 101/3 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจำเลยทั้งสามร่วมกันจัดการศึกษาระดับปริญญาโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำด้วยประการใดๆ ให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าตนมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา โดยการดำเนินการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 จำเลยทั้งสามร่วมให้มีแต่งตั้งตำแหน่งทางวิชาการและตำแหน่งทางการบริหารในลักษณะเดียว กับมหาวิทยาลัยที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมาย กำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน การมอบปริญญาชั้นต่างๆ และตำแหน่งทางวิชาการ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 มีการจัดตั้งขึ้นโดยถูกต้องทั้งที่ความจริงแล้ว จำเลยทั้งสามไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษาระดับปริญญาตามกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยจำเลยที่ 1-3 ต่อสู้คดีและให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ในส่วนของ นายศุภณัฐ และ นายเรวัตร์ จำเลยที่ 1-2 นั้น นอกจากคดีนี้ก็มีคดีที่ศาลลงโทษร่วมกันจัดตั้ง ม.สันติภาพโลกสำนวนแรก จำคุกคนละ 10 ปีซึ่งคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์โดยทั้งสองก็ได้รับการประกันตัว ก็เดินทางมาศาลในวันนี้ ส่วน นายเอนก จำเลยที่ 3 ที่ได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณาก็เดินทางมาพร้อมฟังคำพิพากษาเช่นกัน ขณะที่มีบุคคลใกล้ชิดและญาติสนิทมาติดตามให้กำลังใจ 4-5 คน

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า โจทก์ มีนิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นพยานโจทก์เบิกความเกี่ยวกับการตรวจสอบการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 พบว่าไม่มีการเรียนการสอน ไม่มีสถานที่ตั้ง การมอบปริญญาบัตรโดย ม.สันติภาพโลกมีการลงประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ลักษณะมีการเรียนการสอนและมอบปริญญาบัตร ขณะที่จำเลยทั้งสามได้ร่วมในการมอบปริญญาบัตรด้วย ซึ่งเจือสมกับพยานต่างๆ แสดงว่าจำเลยย่อมต้องรู้หรือควรรู้การดำเนินการดังกล่าวที่ไม่ชอบนั้น

จึงพิพากษาว่า จำเลยทั้งสาม มีความผิด ตาม พ.ร.บ.อุดมศึกษาเอกชนฯ มาตรา 10,104,121 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 60,000 บาท กับจำคุกอีกคนละ 6 เดือนฐานร่วมกันทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ามีหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา โดยปรับจำเลยที่ 3 อีก 60,000 บาท รวมจำคุกจำเลยคนละ 12 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท

ซึ่งคำให้การในชั้นสอบสวนและคำเบิกความชั้นศาลของจำเลยทั้งสาม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 จึงจำคุกจำเลยคนละ 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 บาท โดยในส่วนของอจำเลยที่ 3 พิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับจำเลยที 3 มีอายุมาก และเคยประกอบคุณงามความดีอันเป็นประโยชน์แก่สังคม จึงเห็นสมควรให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 1 ปี หากไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30 โดยให้นับโทษของ นายศุภณัฐอธิการบดี WPU 2 จำเลยที่ 1 และ นายเรวัตร์ นายกสภามหาวิทยาลัยฯ จำเลยที่ 2 ต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 ด้วย (คดีก่อตั้ง ม.สันติภาพโลก ที่เชียงใหม่ สำนวนแรกหมายเลขแดง อ.1036/2562 อยู่ระหว่างอุทธรณ์) ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 ให้จำคุก 10 ปี

ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษ นายเรวัตร์ นายกสภามหาวิทยาลัยฯ ต่อจากคดีหมายเลขแดง อ.1202/2562 (คดีก่อตั้ง ม.สันติภาพโลกปากีสถาน World Peace Academy Cyber U Pakistan (WPACU) ที่ จ.สมุทรปราการ สำนวนที่ 2 หมายเลขดำ อ.514/2562) นั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง นายเรวัตร์ จึงไม่อาจนับโทษต่อได้

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายศุภณัฐ และ นายเรวัตร์ จำเลยที่ 1-2 ที่ศาลลงโทษให้จำคุก 8 เดือนนั้น ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เดิม 100,000 บาทขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ส่วน นายเอนก จำเลยที่ 3 ที่ศาลให้รอการลงโทษไว้โดยสั่งปรับเงิน 80,000 บาทนั้น ก็ได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีกล่าวหาก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกนั้น ที่ผ่านมา ศาลมีคำพิพากษาแล้วรวม 3 สำนวน สำนวนแรกก่อตั้ง ม.สันติภาพโลก แห่งแรกที่เชียงใหม่ คดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นายสวัสดิ์ บรรเทิงสุข อธิการบดีผู้ก่อตั้ง WPU ที่เชียงใหม่ , นายศุภณัฐ อธิการบดี WPU 2 , นายเรวัตร์ นายกสภามหาวิทยาลัย WPU , นางวรางคณา เผ่าวงศา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ใน จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ช่วยนายสวัสดิ์ ดูแลเรื่องการเงิน, นายมาณพ ภาษิตวิไลธรรม กรรมการบริหารมหาวิทยาลัย , นายนาวิน พรมใจสา นายทะเบียนมหาวิทยาลัยคนที่ 2 , นายศุภชัย ขจรศิริภักดี อธก.WPU สาขานนทบุรี , นายนิยม ป้องคำสิงห์ อธก.WPU สาขาภาคตะวันเฉียงเหนือตอนล่างและประธานฝ่ายนิติกร WPU , นางวัชราพร ป้องคำสิงห์ เป็นผู้ช่วยนายนิยมและดูแลการเงินมหาวิทยาลัยสาขาใน จ.ขอนแก่น เป็นจำเลยที่ 1- 9 ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 ให้จำคุกจำเลยทั้ง 9 คนละ 10 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ ค่าเสียหายกับผู้ได้รับใบปริญญา ซึ่งเป็นผู้เสียหายแต่ละรายตามจำนวนของแต่ละคนด้วย (คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ จำเลยที่ 1-6 ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท)

ส่วนสำนวนที่ 2 ก่อตั้ง ม.สันติภาพโลกปากีสถาน WPACUที่.สมุทรปราการ คดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นางประภาจิต ศรีสว่างพัฒนา ซึ่งมีสามีชาวปากีสถานที่ติดต่อขอจัดตั้งมหาวิทยาลัยดังกล่าวในประเทศไทย และนายเรวัตร์ เป็นจำเลยที่ 1-2 โดยศาลอาญา มีคำพิพากษาวันที่ 14 พ.ค.62 ให้จำคุก นางประภาจิต จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี 12 เดือนและปรับ 1.2 แสนบาท ตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาฯ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกีบคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงสมควรให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ส่วนนายเรวัตร์ จำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง