ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งปิดใช้อาคาร ร.ร.บ้านเหล่านาดี หลังเสี่ยงพังถล่ม

ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งปิดใช้อาคาร ร.ร.บ้านเหล่านาดี หลังเสี่ยงพังถล่ม

สั่งปิดใช้งานอาคารเรียนทั้ง 2 หลังของโรงเรียนบ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น หลังโยธาธิการและผังเมืองเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารแล้วพบว่ามีความเสี่ยงที่จะพังถล่มและเป็นอันตราย

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยภายหลังการรับฟังการรายงานข้อมูลจากนายรังสฤษฏ์ ธนะภูมิชัย รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 และนายมานพ อานจันทึก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเหล่านาดี กรณีอาคารโรงเรียนบ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น จำนวน 2 หลัง ประสบปัญหาชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก และโครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน ของอาคาร ทั้ง 2 หลังเสื่อมสภาพจากการใช้งานมากว่า 40 ปี ทำให้คณะครูและนักเรียนต้องย้ายอุปกรณ์การเรียนออกมาทำการเรียนการสอนที่อาคารเอนกประสงค์และโรงอาหารแทน เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและครู กว่า 100 คน

ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบสภาพของอาคารเรียนของโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ซึ่งพบว่า สภาพของอาคารทั้ง 2 หลัง อยู่ในสภาพชำรุดและทรุดโทรมจริง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อนักเรียนและครู ในเบื้องต้น จึงสั่งการให้ปิดใช้อาคารเรียนทั้ง 2 หลัง และประกาศให้เป็นพื้นที่อันตราย ขณะที่การแก้ไขเฉพาะหน้าได้ให้ทางโรงเรียนนำนักเรียนออกมาทำการเรียนการสอนในที่ที่ปลอดภัยก่อน เพราะชีวิตของนักเรียนและครูถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมาอันดับหนึ่ง

ขณะเดียวกันได้ให้สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 เร่งดำเนินการส่งเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของงบประมาณที่ทางโรงเรียนได้ร้องขอในการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ เนื่องจากสภาพของอาคารทั้ง 2 หลัง ไม่เหมาะที่จะซ่อมแซม พร้อมกันนี้ได้สั่งการไปยังเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น ทั้ง 5 เขต ทำการสำรวจอาคารเรียนของโรงเรียนทุกแห่งว่ามีความแข็งแรงมั่นคงหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลที่ได้เสนอไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือต่อไป

ด้านนายอดิเรก วัฒนาอุดมชัย โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียนทั้ง 2 หลังอย่างละเอียด พบว่า ปัญหาหลักคือโครงสร้างของอาคาร โดยเฉพาะตัวเสา พบว่าเหล็กเส้นในตัวเสาขึ้นสนิม มีสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก และอยู่ในสภาพเดียวกันเกือบทุกต้น ซึ่งเป็นผลมาจากอายุการใช้งานมากว่า 40 ปี และความชื้นจากพื้นดิน พิจารณาตามหลักวิศวกรแล้วเห็นว่า หากทำการซ่อมแซมอาคารจะไม่เกิดความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับอายุการใช้งานอาคารที่เหลือ เห็นควรพิจารณาขอรับงบประมาณ เพื่อก่อสร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนจะมีความเหมาะสมกว่า