พักฐาน

พักฐาน

วานนี้ปรับตัวลง หลังจากตลาดตอบรับข่าวบวกไปมาก และไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาเสริม

ประกอบกับภายในประเทศมีการเผยคาดการณ์ตัวเลขส่งออกที่คาดว่าจะหดตัวในปีนี้ จากเดิมคาดว่าเติบโตเล็กน้อย ขณะที่ปัจจัยการเมืองยังต้องติดตามผลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะซื้อสุทธิ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,732.23 จุด (-8.68 จุด) Volume 6.6 หมื่นลบ. จาก Foreign +2,195.65 ลบ. TFEX Net +1,341 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +7,790 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ดาวโจนส์ปิดบวก 69.25 จุด +0.26% เนื่องจากกังวลสหรัฐหันมาเปิดศึกกับสหภาพยุโรป (EU) ด้วยการขู่ว่าจะขึ้นภาษีอีก 4 พันล้านดอลลาร์

+กลุ่มโอเปกตกลงขยายระยะเวลาลดกำลังผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงมี.ค. 2563 โดยจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก

+ ผู้ว่าการ BOE มีความเห็นว่าอังกฤษอาจจำเป็นต้องดำเนินนโยบายระยะสั้นเพื่อรับมือกับสงครามการค้าโลก และ Brexit แบบไร้ข้อตกลง ขณะที่ดัชนี PMI ภาคก่อสร้างสหราชอาณาจักรในเดือนมิ.ย.ต่ำสุดรอบ 10 ปี

+FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นครั้งแรกรอบ 4 เดือน หวังรัฐบาลใหม่กระตุ้นศก.-นโยบายการเงินสหรัฐหนุน

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 4.8 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.55 บาท/US

- ราคาน้ำมัน WTI ร่วง 2.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง จากความอ่อนแอของภาคการผลิต

-ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์เห็นว่าเฟดยังไม่ควรปรับลดอัตราดบ.จนกว่าจะมีข้อมูลมากขึ้นที่แสดงว่าศก.สหรัฐกำลังอ่อนแออย่างแท้จริง

-สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ปรับเป้าหมายการส่งออกปี 2562 เติบโต 1 ถึง -1% ใกล้เคียงกับปี 2561 ที่เติบโต 0% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 1%

*จับตาประชุม กกร. และธปท.รายงานนโยบายการเงิน / สหรัฐ เปิดเผย ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเอกชน

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสพักฐาน โดยมีแรงกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรง -4.8% ขณะที่มีแรงหนุนจากประเด็นความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล โดยคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสามารถถวายสัตย์ปฏิญาณได้ช่วงกลางเดือนก.ค.นี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,725-1,740 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท (TOA MGT SMIT) ,หุ้นที่ได้ประโยชน์จากผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (SYNEX HANA COM7 TVO)  ,หุ้น Theme EEC play (AMATA WHA ROJNA EASTW ATP30) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ (STEC CK STPI)

หุ้นมีข่าว   

·      + TACC (ราคาปิด 4.84 บาท ราคาเหมาะสม 4.90 บาท “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”) ดันสินค้าใหม่ “เมลอนลาเต้” เสริมทัพโถกดในเซเว่นฯ ส่วน ALL Cafe’ เตรียมเปิดตัวชานมบุกทำตลาดช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจรสชาติถูกใจผู้บริโภค หวังหนุนรายได้ปีนี้โต 15% ตามเป้า (ที่มาข่าวหุ้น)

ความเห็น การวางขายสินค้าใหม่ อาทิ เมลอนลาเต้(โถกดเย็น) และชานมบุก (All café) เป็นไปตามแผนการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรปี 62 ราว 119 ลบ. +74.6% อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 4.84 บาท ใกล้ถึงราคาเป้าหมายที่เราจัดทำไว้ที่ 4.90 บาท จึงปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

·      + SPALI (ราคาปิด 23.30 บาท Bloomberg Consensus 24.42 บาท)  แย้มผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก เดินเครื่องเต็มสูบผุด 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท หนุนยอดขายปีนี้ตามนัด 35,000 ล้านบาท พร้อมย้ำรายได้ปีนี้เข้าเป้า 28,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อกรอบุ๊ก 42,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

ความเห็น  เรามีมุมมองบวกต่อความสามารถในการทำกำไรในระดับดี รักษาระดับ %GP ใกล้เคียง 40% และ backlog ที่แข็งแกร่งช่วยหนุนผลการดำเนินงานปีนี้ให้เป็นไปตามประมาณการ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 6.2พันลบ. +8%YoY ราคาหุ้นน่าสนใจซื้อขายที่ PE 7.8 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ 14.8 เท่า IAA Consensus คาด yield ราว 4.7%

·      + CK (ราคาปิด 29.00 บาท Bloomberg Consensus 32.32 บาท) เซ็นรับงานจาก TTW ปรับปรุงระบบผลิตและส่งจ่ายน้ำประปาบางเลน เฟส 1 มูลค่า 349.69 ล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)

·      + ASAP (ราคาปิด 2.68 บาท Bloomberg Consensus 3.43 บาท)   แย้มครึ่งหลังปี 2562 ผลงานโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก อานิสงส์ยอดเช่า-ขายยูสคาร์พุ่ง พร้อมเดินหน้าเข็นรถหมดสัญญาขาย 700 คัน อัพฐานโกยเงิน คอนเฟิร์มปี 2562 รายได้โต 25-30% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าโตต่อเนื่อง(ที่มา ทันหุ้น)

·      +  JMT (ราคาปิด 17.1 บาท Bloomberg Consensus 17.40 บาท) เล็งครึ่งหลังปี 2562 ผลงานโตต่อ อานิสงส์ยอดเก็บหนี้พุ่ง-ธุรกิจประกันหนุน พร้อมย้ำเป้ารายได้ปี 2562 โต 30-50% จากปีก่อนที่ 1.88 พันล้านบาท รับธุรกิจบริหารหนี้สดใส และอัดงบ 3 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)  

·      (+) BAFS และ PSTC : กระทรวงพลังงานคาดโครงการท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ-อีสานเสร็จตามแผนปี 2563-2564 หนุนความมั่นคงพลังงานในประเทศ สั่ง BAFS-PSTC เร่งเดินหน้าโครงการ เตรียมพร้อมศึกษาต่อยอดขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (ที่มาข่าวหุ้น)

·      (-) BEM (ราคาปิด 11.20 บาท Bloomberg Consensus 11.70 บาท) การประชุมคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการนำเรื่องต่ออายุสัมปทานทางด่วนเป็นระยะเวลา 30 ปีเข้าสู่การพิจารณา อย่างที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า (ที่มา www.tnews.co.th)

·      (+) NWR (ราคาปิด 0.79 Bloomberg Consensus 0.90) ได้งานใหม่ 2 โครงการมูลค่ารวม 259.28 ล้านบาท ได้แก่ โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนโผงเผง ระยะที่ 3 อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง และโครงการปรับปรุงและพัฒนาท่าเรือโดยสารเพื่อยกระดับการให้บริการโดยสาธารณะทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา (กรุงเทพมหานครและนนทบุรี)
(ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)