'สโคป หลังสวน' เริ่มที่ 38 ล้าน จนถึง 250 ล้านบ.

'สโคป หลังสวน' เริ่มที่ 38 ล้าน จนถึง 250 ล้านบ.

คอนโดมิเนียมสุดหรู "สโคป หลังสวน" เริ่มที่ 38 ล้าน จนถึง 250 ล้านบบาท

บริษัท สโคป จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่มุ่งเน้นเรื่องการออกแบบและก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพพรีเมี่ยมมาตรฐานระดับโลกโดยเฉพาะ ประกาศเริ่มการขายคอนโดมิเนียมสุดหรู “สโคป หลังสวน” โดยในโอกาสนี้ “โทมัส ยูล-ฮันเซน” ดีไซเนอร์ผู้ร่วมดูแลให้คำปรึกษาด้านการออกแบบภายใน “สโคป หลังสวน” ได้เดินทางจากนิวยอร์คมายังประเทศไทยเพื่อพบปะและนำเสนอแนวคิดในการออกแบบโครงการ “สโคป หลังสวน” ให้แก่ลูกค้าด้วยตัวเองด้วย ทั้งนี้ ห้องตัวอย่างโครงการ “สโคป หลังสวน” เตรียมพร้อมเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน กล่าวว่า “สโคป หลังสวน เป็นโครงการที่สร้างมาตรฐานใหม่ ที่จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่โดดเด่นของกรุงเทพมหานคร โดยแนวคิดของโครงการคือการผสานมาตรฐานสูงสุดระดับสากล การออกแบบที่เป็นเลิศระดับโลก และความเป็นสุดยอดของหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกัน “สโคป หลังสวน” ตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนที่แพงที่สุดที่มีการซื้อขายกันในประเทศไทยเมื่อปี 2561 ที่ราคา 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา โดย สโคป หลังสวน ประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัย

จำนวน 158 ยูนิต ในอาคารความสูง 34 ชั้น สามารถเข้าถึงรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลมด้วยระยะทาง 140 เมตรเท่านั้น และมีมูลค่าโครงการกว่า 8,400 ล้านบาท”

สโคป หลังสวนเป็นโครงการแรกในประเทศไทย ของ “โทมัส ยูล-ฮันเซน” ดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์ก ผู้ออกแบบภายในให้กับอาคารที่พักอาศัยที่แพงที่สุดในนิวยอร์ค คืออาคาร ONE57 ที่มีชื่อเล่นว่า “The Billionaire Building” ซึ่งเป็นอาคารที่มีห้องชุดพักอาศัยราคาแพงที่สุดของนิวยอร์คนับถึงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยราคาขายที่พักอาศัยอยู่ที่ราคา 3,140 ล้านบาท (100.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) และอาคารนี้ยังถือเป็นอาคารที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในมหานครนิวยอร์คเมื่อตอนเปิดตัวเมื่อปี 2557 อีกด้วย

“สโคป หลังสวน” มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 โดยราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 38 ล้านบาท ไปจนถึง 250 ล้านบาท ประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 83 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 153 ตารางเมตรไปจนถึง 162 ตารางเมตร และแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 419 ตารางเมตร ไปจนถึง 443 ตารางเมตร โดยทุกยูนิตมอบเพดานห้องที่สูงถึง 3.5 เมตร และห้องชุดแบบเพนท์เฮาส์เพดานสูงถึง 4 เมตร มาพร้อมกระจกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานทุกห้อง และลิฟต์ล็อบบี้ส่วนตัว