“เศรษฐพงค์” ย้ำโผครม.ภท.นิ่งแล้วลั่นทำงานทันทีเมื่อมีครม.ใหม่ พร้อมเดินหน้าฟังความเห็น “ดิจิทัลกับสุขภาพ” พัฒนาโครงข่าย5G รองรับวงการแพทย์ พร้อมปฏิรูประบบสธ.ให้ทันสมัย
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากท่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อทำหน้าที่เป็นประธานการจัดงานอภิปราย (Panel Discussion) หัวข้อ “เทคโนโลยีสารสนเทศทางสุขภาพของประเทศไทย” ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ย่านสุทธิสาร ซึ่งจัดโดยสมาคมเทคโนโลยีดิจิทัล(สทด.) ซึ่งการจัดงานอภิปรายดังกล่าวเพื่อรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สทด. ม.เกษตรฯ ม.มหิดล มทร.ธัญบุรี สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กรมการแพทย์แผนไทยฯ กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ บมจ.ทีโอที บทจ.กสท โทรคมนาคม ในด้านปัญหา แนวทางปฏิบัติและข้อเสนอแนะที่เป็นวาระเร่งด่วนในการขับเคลื่อน เช่น ด้านระบบการตรวจสอบย้อนกลับได้(Traceability) สำหรับกัญชา ด้านระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (Personal Health Record : PHR) ด้านการแพทย์ทางไกล (Telemed) ด้านระบบสารสนเทศเพื่อบริหารปัจจัยพื้นฐานผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Basic Needs MIS) และด้านทักษะดิจิทัลสากล สำหรับนักวิชาการสาธารณสุขและประชาชน
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ในวงการอภิปรายได้มีการนำเสนอให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มาปรับใช้สำหรับวงการแพทย์หรือด้านการดูแลสุขภาพของประชาชน เช่น ให้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาปรับใช้ในด้านกานจัดเก็บและเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพต่างๆ ด้านการแพทย์ทางไกล มีการเสนอให้ต้องเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น ความพร้อมในเทคโนโลยี 5G จะต้องครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการส่งผ่านข้อมูลด้านการแพทย์ที่รวดเร็วในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งนอกจากจะเป็นการนำการรักษาไปสู่ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ยังเป็นการเพิ่งองค์ความรู้ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด้วย เพราะในพื้นที่ต่างๆ อาจมีการใช้สมุนไพรเป็นยาไม่เหมือนกัน จึงอาจเป็นความรู้ใหม่ทางการแพทย์แผนไทยได้อีกทางหนึ่ง
“ผมคิดว่าการให้ข้อมูลจากตัวแทนองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในวงการแพทย์ที่จะต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาช่วยในการพัฒนาเสริมสร้างให้การทำงานด้านการแพทย์ มีประสิทธิภาพ มีผลสัมฤทธิ์ และทันต่อสถานการณ์ ซึ่งผมจะได้นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้นำเสนอต่อท่านหัวหน้าพรรคภูมิจไทยต่อไป"
อย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทยเอง ก็มีนโนบายที่เน้นในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และด้านการแพทย์อยู่แล้ว เช่น การปฏิรูประบบสาธารณสุขด้วยการใช้เทคโนโลยีแพทย์ทางไกลหรือ Telemedicine และใช้ AI และ Big data ตั้งศูนย์ Smart Health ของกระทรวงสาธารณสุขให้เชื่อมโยงไปยังโรงพยาบาล แพทย์และหมอประจำหมู่บ้าน (อสม.)ทั่วประเทศ ที่สำคัญเรามีนโยบายดิจิทัลเวิร์ด ด้วยการใช้เทคโนโลยี 5G ในการขับเคลื่อนภาคต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ดังนั้นการพัฒนา5G จึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้พร้อมเพื่อรองรับการพัฒนาด้านต่างๆ ของประเทศแน่นอน
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาล โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลคงเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้บอกเอาไว้ว่าจะเสร็จสิ้นภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ และพรรคภูมิใจไทยตามที่ท่านหัวหน้าพรรคบอกเสมอก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรในตำแหน่งรัฐมนตรีทุกอย่างน่าจะนิ่งแล้ว ขณะนี้บุคลากรของพรรคภูมิใจไทยทุกคนมีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมที่จะเริ่มทำงานเพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชนทันที แล้วการที่ตนมารับฟังการอภิปรายเรื่องดิจิตอลและสุขภาพครั้งนี้ก็ถือเป็นการเตรียมข้อมูลเตรียมความพร้อมให้สามารถทำงานได้ทันทีเมื่อมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
