ที่รัฐสภา เกียกกาย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวต่อประเด็นที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว. ว่าเข้าข่ายมีลักษณะและคุณสมบัติต้องห้ามหรือไม่ กรณีมีหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน ว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียดคำร้องของนายเรืองไกร แต่เชื่อว่า กกต. จะต้องพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ส่วนตัวมองประเด็นดังกล่าวว่า กระบวนการสรรหา ส.ว. มีความแตกต่างจาก ส.ส.เล็กน้อย คือ ส.ว.มีกระบวนการสรรหาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง ทั้งนี้ในประเด็นเรื่องการพิจารณาว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือขัดคุณสมบัติอย่างไรนั้น ตนมองว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่หัวหน้าคสช. จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
“ที่ผมทราบ สนช. ต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนที่หัวหน้าคสช. จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนใหญ่ สนช. ลาออกกันวันที่ 8 - 9 พฤษภาคม และถือว่าได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนในรายละเอียดอื่นๆ ผมไม่ทราบ แต่เชื่อว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อนั้นต้องเคลียร์คุณสมบัติของตนเองให้แล้วเสร็จก่อนวันที่หัวหน้าคสช. นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ” นายพรเพชร กล่าว
นายพรเพชร ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่อกรณีที่ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการได้มาซึ่ง ส.ว. ว่า ต้องสอบถามไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ที่ต้องใช้ดุลยพินิจพิจารณา อย่างไรก็ตามที่มีประเด็นว่าหากญัตติดังกล่าวไม่ถูกบรรจุ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายชวนนั้น ตนไม่ทราบ ทั้งนี้กระบวนการตรวจสอบที่มาของส.ว. จะสามารถทำได้ย้อนหลังหรือไม่นั้น เพราะปัจจุบัน ส.ว. ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่แล้วนั้น ตนไม่ทราบในขั้นตอน ทั้งนี้ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย
