ผันผวนต่อ-บวกลบไม่มาก

ผันผวนต่อ-บวกลบไม่มาก

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่างวัน หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน

ประกอบกับผลการประชุม กนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ตามคาด พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ GDP เหลือเพียง 3.3% จากเดิม 3.8% อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติยังคงสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,722.21 จุด (+0.88 จุด) Volume 6.4 หมื่นลบ. จาก Foreign +5,011.40 ลบ. TFEX Net -13,558 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -2,083 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ปธน.ทรัมป์แสดงความมั่นใจเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับปธน.สี จิ้นผิงในการประชุม G20

+สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองในสัปดาห์ที่แล้ว  +1.3%wow +40%yoy จากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

+ราคาน้ำมัน WTI ปิดบวก 1.55$ +2.7%  หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่าคาด และได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 3.7 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.77 บาท/US

-ดาวโจนส์ปิดลบ 11.40 จุด -0.04% จากการร่วงลงของกลุ่มธุรกิจสุขภาพและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค. ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน แต่ดัชนี Nasdaq ปิดบวก จากการพุ่งขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน

-แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงว่า GDP +1.9% ใน 2Q62 ต่ำกว่าระดับ 2% ในคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และต่ำกว่าระดับ 3.1% ในไตรมาสแรก

-บอร์ดกนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดบ.นโยบายที่ 1.75% ต่อปีโดยปรับลดคาดการณ์ GDP เหลือ 3.3% จากเดิม 3.8% ส่วนส่งออกคาดโต 0% จากเดิม 3%

-ศาลรธน.รับวินิจฉัย 32 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องยุติทำหน้าที่

+/-ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อังกฤษรับมือ Brexit โดยไม่มีการทำข้อตกลง

*จับตาสหรัฐรายงาน GDP 1Q62

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มผันผวนต่อรอฟังผลการประชุม G20 โดยเฉพาะการประชุมนอกรอบระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สีจินผิ้ง จึงบวก-ลบได้ไม่มาก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,707-1,727 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing :  PTT SCC KBANK SCB BBL CPN PTTGC IVL TOP BH IRPC TASCO TOA PTTEP TOP EGCO HARN หุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง

หุ้น Defensive :   กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW SPA) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)

หุ้นน่าลงทุน Theme EEC play :   AMATA WHA WHAUP WHART EASTW ATP30 ORI

หุ้นเข้าใหม่ SET50 :   SAWAD, OSP หุ้นเข้าใหม่ SET100 : JAS, JMT, OSP 

หุ้นเข้าใหม่ SETHD :   BEAUTY, INTUCH, JMT, KCE  มีผล 2H62

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก
ตลาด
MAI/ Industry

ACG (ราคา IPO 1.44 บาท ไม่จัดอันดับคำแนะนำ ราคาเหมาะสม 1.85 บาท)

**บล.โกลเบล็กร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ด้วยซึ่งบริษัทจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

  • บมจ. ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง (ACG) ประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (holding company) ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายและการให้บริการในกลุ่มยานยนต์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ปัจจุบัน ACG ถือหุ้นในบริษัทย่อย คือ บริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รวมถึงการนำเสนอบริการสินเชื่อเช่าซื้อและประกันภัยรถยนต์ ปัจจุบันมีศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าทั้งหมด 9 แห่ง ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จ. สุรินทร์ จ. บุรีรัมย์ จ. ขอนแก่น จ. ภูเก็ต และ จ. กระบี่
  • หุ้นสามัญเพิ่มทุน 156 ล้านแบ่งเสนอขาย IPO 117 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณไม่เกิน 23.4 ล้านหุ้น บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทและบริษัทย่อยไม่เกิน 6 ล้านหุ้น และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 9.6 ล้านหุ้น าคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 70 เท่า
  • งวด 1Q62 มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาทพลิกจากขาดทุน 2.7 ล้านบาทในงวด 1Q61 อัตรากำไรสุทธิปรับดีขึ้นเป็น 1.9%  จาก 1.6% ใน 4Q61 และ -0.6% ใน 1Q61 ทั้งนิ้ กำไรสุทธิในงวด 1Q62 คิดเป็น 27% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 (มีบทวิเคราะห์ที่เผยแพร่วันนี้)

หุ้นมีข่าว   

·         + PTT (ราคาปิด 48.50 บาท Bloomberg Consensus 53.92 บาท) ผบห. มั่นใจรายได้ปีนี้พุ่ง 2.4 ล้านล้านบาท ขณะที่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนชี้กระทบระยะสั้น ส่วนแผนนำ PTTOR เข้าตลท.รอบอร์ดไฟเขียวยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.เดือนหน้า ด้านลงทุนไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินรอผู้ชนะเทียบเชิญหรือไม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         + SAMTEL (ราคาปิด 10.40 บาท Bloomberg Consensus 11.20 บาท) งานใหม่เข้าต่อเนื่อง ล่าสุดคว้างานติดตั้งระบบเครือข่ายโทรคมนาคมทหาร ติดตั้ง CCTV รวมมูลค่ากว่า 767 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลงานไม่หยุด มั่นใจปีนี้รายได้ชน 1 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

·         + ITEL (ราคาปิด 3.10 บาท Bloomberg Consensus 7.50 บาท) รอเซ็นสัญญาคว้างานใหม่ มูลค่า 300-400 ล้านบาท เดินหน้ายื่นประมูลงานครึ่งปีหลังอีก 3-4 พันล้านบาท หวังกวาดเข้าพอร์ตเพิ่ม 1.2-2 พันล้านบาท อวดแบ็กล็อกแน่น 5.6 พันล้านบาท มั่นใจรายได้โตตามนัด 30-40% (ที่มา ทันหุ้น)

·         + ILINK  (ราคาปิด 5.80 บาท Bloomberg Consensus 5.90 บาท) เผยชนะประมูลงาน HV Submarine Jointer ของกฟผ.และโครงการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติกกองทัพไทย รวมมูลค่า 129 ล้านบาท คาดรับรู้ทันทีปีนี้ ดันรายได้ทะลุ 5.4 พันล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เชื่อรัฐบาลใหม่หนุนธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

·         + TTCL (ราคาปิด 8.95 บาท Bloomberg Consensus 9.85 บาท) จ่อบุ๊กกำไรพิเศษจากการขายโรงไฟฟ้าราว 600-650 ล้านบาท ภายในไตรมาสที่ 2/2562 หวังนำเงินพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหิน Ahlone เฟส 2 ขนาด 388 เมกะวัตต์ เผยอยู่ระหว่างรอ PPA จากประเทศเมียนมา พร้อมเดินหน้าคว้างานเพิ่มครึ่งปีหลังประมาณ 19,000 ล้านบาท โชว์ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 ที่ 15,300 ล้านบาท มั่นใจรายได้แตะ 50% ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

·         + EKH (ราคาปิด 6.90 บาท Bloomberg Consensus 8.26 บาท) ส่งซิกครึ่งหลังปี 2562 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเข้าสู่ไฮซีซันธุรกิจเฮลธ์แคร์ เตรียมกดปุ่มเปิดให้บริการอาคารกุมารเวชใหม่ ขนาด 60 เตียง และการให้บริการในศูนย์ IVF พระราม 9 แบบ One Stop Service หนุนรายได้ปี 2562 เติบโตตามเป้า 10-15% (ที่มา ทันหุ้น)

·         + TRC (ราคาปิด 0.23 บาท Bloomberg Consensus 0.26 บาท) คว้างาน "EASTW" ลุยโครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำดิบอ่างเก็บน้ำคลองหลวง-ชลบุรี (งานวางท่อส่งน้ำและก่อสร้างสถานีสูบน้ำ) มูลค่า 1,800 ลบ. (ที่มา ทันหุ้น)

·         + TOG ขยายผลปรับโครงสร้างองค์กรใหม่หนุนผลการดำเนินงานในปี 2563-65 เติบโตโดดเด่น เฉลี่ยยอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี เดินหน้าเจรจาขยายฐานลูกค้าต่างแดนใหม่ คาดภายในช่วงครึ่งหลังปีนี้ได้ข้อสรุปรายใหญ่ไม่น้อยกว่า 1 ราย ที่มีออเดอร์มูลค่าราว 10 ล้านบาทต่อเดือน ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปีนี้โตดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

·         SMPC (ราคาปิด 8.00 บาท Bloomberg Consensus 10.20 บาท) แจงกรณีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ พิจารณาตอบโต้นำเข้าถังแก๊สโพรเพนจากไทย มั่นใจทำตามกติกาถูกต้อง สินค้าได้มาตรฐานและได้รับการรับรอง ชี้ยอดขายถังส่งออกเข้าสหรัฐเพิ่มขึ้นถึง 15% แถมยืนหยัดราคาขายที่สมเหตุสมผล เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก (ที่มา ทันหุ้น)

 

สรุปรายชื่อหุ้น 16 ตัวให้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลด SP ชั่วคราวให้สามารถซื้อขาย 1 เดือนระหว่าง 1 – 31 ก.ค. 2562 โดยต้องซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance ได้แก่ A5, BLISS, BUI, CHUO, EARTH, GSTEL, IFEC, KC, KTECH, NBC, NMG, POLAR, PRO, STHAI, TSF และWR  โดยจะขึ้นเครื่องหมาย SP ต่อในวันที่ 1 ส.ค. 2562 เป็นต้นไป

IEC, LVT, YNP ตลาดหลักทรัพย์ประกาศเพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเนื่องจากไม่สามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอนได้  จึงเปิดให้ทำการซื้อขาย 7 วันทำการระหว่าง 1-9 ก.ค. 2562 และเพิกถอนหลักทรัพย์ตั้งแต่ 10 ก.ค. 2562 เป็นต้นไป โดยต้องซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance