“ทรัมป์”เปรยอยากฉีกสัญญาปกป้อง “ญี่ปุ่น”

“ทรัมป์”เปรยอยากฉีกสัญญาปกป้อง “ญี่ปุ่น”

ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจ่ายปีละกว่า7แสนล้านเยน เป็นค่าใช้จ่ายให้ฐานทัพสหรัฐบนหมู่เกาะโอกินาวะ

“ทรัมป์”เปรยอยากถอนตัวจากสนธิสัญญาป้องกันประเทศที่ทำกับญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชี้ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายได้ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียวสวนทางกับข้อมูลที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจ่ายปีละกว่า7แสนล้านเยน เป็นค่าใช้จ่ายให้ฐานทัพสหรัฐบนหมู่เกาะโอกินาวะ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้พูดกับบุคคลใกล้ชิดว่า เขามีความคิดอยากจะถอนสหรัฐออกจากสนธิสัญญาป้องกันประเทศที่ทำกับญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อกว่า 60 ปีก่อน โดยอ้างว่า ญี่ปุ่นได้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียวโดยสนธิสัญญาป้องกันประเทศร่วมกันฉบับนี้ ทำให้สหรัฐเข้าไปตั้งฐานทัพในญี่ปุ่นได้ ภายใต้เงื่อนไขว่า สหรัฐจะเป็นผู้ปกป้องหากญี่ปุ่นถูกรุกราน

นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐยังไม่พอใจที่สหรัฐต้องย้ายที่ตั้งฐานทัพบนเกาะโอกินาวา และอยากให้ญี่ปุ่นรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมากกว่านี้แต่ประธานาธิบดีทรัมป์เพียงแค่เอ่ยถึงเรื่องนี้เท่านั้น ไม่ได้ดำเนินการอะไรอย่างมีนัยสำคัญใดๆ

ขณะที่นายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวปฏิเสธกระแสข่าวนี้และบอกว่าญี่ปุ่นได้รับคำยืนยันจากประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว ว่าการถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ ขณะเดียวกัน เริ่มมีผู้ตั้งคำถามแล้วว่า ประธานาธิบดีสหรัฐต้องได้รับความยินยอมจากสภาคองเกรสก่อนถอนตัวหรือไม่

ด้านนักวิเคราะห์ มองว่า หากสหรัฐฉีกสัญญากับญี่ปุ่นจริง สหรัฐจะเป็นฝ่ายสูญเสียความแข็งแกร่งทางทหารในเอเชียตะวันออก ในช่วงเวลาที่จีนกำลังผงาดในภูมิภาคนี้ และจะทำให้ญี่ปุ่นซึ่งมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ใกล้กับทั้งจีนและเกาหลีเหนือต้องแสวงหาพันธมิตรด้านความมั่นคงรายใหม่ หรือไม่ญี่ปุ่นก็อาจกลับมาตั้งกองทัพของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ และอาจต้องการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ก็เป็นได้

ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี20 และมีกำหนดหารือระดับทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะด้วย

อย่างไรก็ตาม  ฐานทัพของสหรัฐในญี่ปุ่นมีหลายพื้นที่ แต่ที่ใหญ่ที่สุด คือ หมู่เกาะโอกินาวะ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นต้องจ่ายเงินมากกว่าปีละ 760,000 ล้านเยนให้กับสหรัฐ ครอบคลุมทั้งค่าบำรุงรักษาสถานที่ ค่าแรงของเจ้าหน้าที่และลูกจ้างในฐานทัพ รวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส และค่าปรับอากาศ