ผันผวนต่อ

ผันผวนต่อ

SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง

ประกอบกับราคาน้ำมัน WTI ยังคงปรับตัวขึ้นต่อ โดยหุ้นกลุ่ม Big cap. ที่หนุนตลาด ได้แก่ ADVANC IVL และ CPF ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,721.33 จุด (+5.33 จุด) Volume 6.5 หมื่นลบ. จาก Foreign +2,350.74 ลบ. TFEX Net -5,351 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +2,154 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ สื่อเผยสหรัฐอาจเลื่อนเก็บภาษีจีนเพิ่มเติมหลังการประชุม "ทรัมป์-สี จิ้นผิง" ในเวที G20 ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันเสาร์นี้

+การเมืองในประเทศมีความคืบหน้า 1) นายกฯยืนยันกลางเดือนหน้าได้รัฐบาลใหม่ 2) ศาลปกครองสูงสุดยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องคดีแต่งตั้งกก.สรรหาส.ว.ไว้พิจารณา

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 3.2 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.70 บาท/US

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 7 เซนต์ -0.1% จากความกังวลว่าข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน และความตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน

-ดาวโจนส์ปิดลบ 179.32 จุด -0.67% หลังประธานเฟดไม่ส่งสัญญาณลดอัตราดบ.ในการกล่าวสุนทรพจน์วานนี้ และปัจจัยกดดันราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

-ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ไม่เห็นด้วยกับการที่เฟดปรับลดอัตราดบ. 0.50%

-สหรัฐฯเผยยอดขายบ้านใหม่ในเดือนพ.ค. ร่วงลง 7.8%MoM สู่ระดับ 626,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

-ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 131.1

-สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพ.ค.ลดลง 3.99%YoY MPI เฉลี่ย 5 เดือนติดลบ 1.26% เนื่องจากส่งออกลดลงต่อเนื่องจากศก.โลกชะลอตัว

 *จับตาจับตาการประชุมกนง.ซึ่งอาจปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ และสหรัฐเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

 

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนต่อจากราคาน้ำมันและตลาดหุ้นต่างประเทศปรับลง นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมกนง. การประชุม G20 และผลการเจรจาพบปะเจรจานอกรอบระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สีจินผิ้ง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,705-1,727 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing : PTT SCC KBANK SCB BBL CPN PTTGC IVL TOP BH IRPC TASCO TOA PTTEP TOP EGCO HARN หุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็ง

หุ้น Defensive : กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW SPA) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)

หุ้นน่าลงทุน Theme EEC play : AMATA WHA WHAUP WHART EASTW ATP30 ORI

หุ้นเข้าใหม่ SET50 : SAWAD, OSP

หุ้นเข้าใหม่ SET100 : JAS, JMT, OSP 

หุ้นเข้าใหม่ SETHD : BEAUTY, INTUCH, JMT, KCE  มีผล 2H62

หุ้นมีข่าว   

·         + D (ราคาปิด อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและราคาเหมาะสม) บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโต 2 เท่าตัว หรือแตะระดับ 1 พันล้านบาททำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลท. โดยส่วนหนึ่งมาจากการเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลฟันแห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท ซอย 2 ตั้งแต่ 1 ก.ค.62 และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เตรียมเปิดบริการ Chiang Mai International Dental Center (CIDC) ที่เชียงใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าในภาคเหนือ (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

ความเห็น การเปิดให้บริการของโรงพยาบาลใกล้เคียงแผนเดิมที่จะเปิดบริการในช่วง 2Q62 ประกอบกับการขยายธุรกิจแบบ Inorganic ในการซื้อกิจการคลินิกทันตกรรม 3 แห่งและการแตกไลน์สู่ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ในปีที่ผ่านมาจะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้จะช่วยหนุนรายได้เติบโตสูงในปีนี้  

·         + GULF (ราคาปิด 119.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 96.92) รอลุ้นข่าวดีคว้าโรงไฟฟ้าก๊าซในเวียดนาม 6,000 MW คาดเข้าถือหุ้น 30% ขณะที่โครงการมาบตาพุด เฟส 3-แหลมฉบัง เฟส 3 คาดให้ผลตอบแทนสูง ด้านผู้บริหาร GULF กร้าว!ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน-แตกพาร์ ปักธงปี 67 หลัง COD โรงไฟฟ้าไอพีพี 5,000 MW หนุนรายได้รวมพุ่ง 1.4 แสนล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         + WHA (ราคาปิด 4.76 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 4.87) แต่งตั้ง JLL เป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าใน “ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ย่านบางนา” มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 52,000 ตารางเมตร ชูจุดเด่นเชื่อมสู่อีอีซี ตั้งเป้าก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 63 (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         + SUSCO (ราคาปิด 3.26 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 4.50) ชี้ดีมานด์น้ำมันโต ค่าการตลาดเพิ่ม ภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้น หนุนยอดขายปีนี้เติบโตตามเป้า 8% เร่งขยายสถานีบริการปีนี้ 20 แห่ง รุกทำแคมเปญระยะสั้นกระตุ้น พร้อมเดินเกมธุรกิจ Non-Oil ตั้งเป้า 2-3 ปี รายได้แตะ 100 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·         + AMATA (ราคาปิด 24.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 26.40) ยอดขายที่ดิน และส่วนแบ่งกำไร หนุนกำไรปี 2562-64 เติบโต คาดยอดขายที่ดินปี 2562 อยู่ที่ 925 ไร่ ปี 2563 อยู่ที่ 1,000 ไร่และ ปี 2564 อยู่ที่ 1,050 ไร่ และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า 3  แห่งที่เริ่ม COD ในปี 2561 (ที่มา : ทันหุ้น)

·         + SABINA (ราคาปิด 27.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 37.25)  ดาวเด่น หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็ง กดต้นทุนลดฮวบ คงเป้ารายได้โต 10% เดินหน้าออกสินค้า Collection ใหม่ดันยอด พร้อมขยายตลาดต่างประเทศ(ที่มา : ทันหุ้น)

·         + SEAFCO (ราคาปิด 8.65 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 9.82) ลุ้นงบ Q2/2562 เติบโตสูง รับรู้รายได้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม/ชมพู The One Bangkok และ The Bangkok Mall ขณะที่มีโอกาสรับงานใหม่ที่อยู่ระหว่างการประมูลอีก 2.9 หมื่นล้านบาท หนุนอัพไซด์ในอนาคต (ที่มา : ทันหุ้น)

·         - ITD  ทอท.บี้เร่งงานสุวรรณภูมิเฟส 2 ในสัญญางาน CC1/1 วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G), ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) ส่งมอบก.ค.นี้ เผยงานล่าช้ากว่าสัญญา ค่าปรับบานปลาย 4 พันลบ. จากการถูกปรับวันละ 11 ล้านบาท ขณะที่ยังมั่นใจ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เสร็จเม.ย. 63 วางระบบภายในเปิดได้ปลายปี 63 (ที่มา MGR Online)