ระวังการปรับฐานหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ในช่วงสั้น

ระวังการปรับฐานหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ในช่วงสั้น

ทรัมป์เพิ่มระดับมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

ประธานาธิบดีทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศลงนามเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านผ่านการปิดกั้นธุรกรรมทางการเงินของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของอิหร่าน รวมถึงผู้นำทางกองทัพของอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธโจมตีโดรนของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อกดดันให้อิหร่านยอมกลับมาเจรจาข้อตกลงยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ (คาดหนุนโมเมนตัมราคาน้ำมันบวกต่อ)

คณะเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ เริ่มหารือก่อนการพบกันของทรัมป์และสีจิ้นผิงในการประชุม G20. โดยแม้เราจะมองว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายในรอบนี้จะยังไม่มีนัยสำคัญอะไรมาก แต่จะเป็นการปูทางไปสู่การพบกันระหว่างทรัมป์และสีจิ้นผิงในการประชุม G20 (ความขัดแย้งที่สูงอาจส่งผลให้การเจรจาในวันที่ 28-29 มิ.ย. มีความตึงเครียดมากขึ้น) อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีมุมมองว่าผลการเจรจาจะไม่แย่ หรืออาจดีกว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากทรัมป์น่าจะเลี่ยงการขึ้นภาษีในอัตราที่สูงเพื่อลดผลกระทบต่อกลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐฯ

บาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 6 ปี แนะเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า. ได้แก่กลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศมาก หรือมีการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มสายการบิน (AAV, BA, THAI) และกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (BGRIM, EGCO, GULF) ทั้งนี้นักลงทุนอาจเลือกเก็งกำไรในกลุ่มที่ยังขึ้นน้อยเนื่องจากยังห่างจากช่วงประกาศผลประกอบการ (ส.ค.62) ขณะที่อาจต้องระวังการปรับขึ้นต่อในกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ผลการดำเนินงานจะดีที่สุดในปีนี้ในช่วงไตรมาส 2 ก่อนชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล

ประเมิน SET Index อยู่ในช่วงปรับฐาน. จากการเข้าใกล้วันเจรจาของทรัมป์และสีจิ้นผิงคาดว่าจะส่งผลให้นักลงทุนในตลาดชะลอการซื้อขายสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นเพื่อรอความชัดเจนจากประเด็นดังกล่าว ประกอบกับ ณ ระดับดัชนีปัจจุบันที่ประมาณ 1716-1717 จุด หรือคิดเป็นอัตราส่วน Forward PE ที่ 16.3x หรือ +1SD บนค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับในอดีต ขณะที่ส่วนต่าง Earning Yield Gap อยู่ที่ประมาณ 3.34% (ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.50%) ส่งผลให้ valuation ของตลาดในช่วงสั้นเริ่มตึงตัวมากยิ่งขึ้น เรายังคงแนะ selective buy ในหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น ที่ได้รับปัจจัยบวกจากเหตุโรงกลั่นระเบิดในสหรัฐฯ อาทิ SPRC, ESSO โดยเฉพาะ TOP ที่แม้ว่างบไตรมาส 2/62 อาจชะลอตัวลงจากการปิดซ่อมบำรุง 1 เดือน แต่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการ IMO ที่จะบังคับใช้ต่อไป รวมถึง หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล 

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสพักตัวลงทดสอบแนวรับ 1710-1700 จุด จากการปรับฐานในช่วงสั้น แนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มโรงกลั่น รวมถึง หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล // หุ้นแนะนำวันนี้ TOP, GPSC เก็งกำไร AMATA* (เป้า 25 ตัดขาดทุน 23.5), AI* (เป้า 2.00 ตัดขาดทุน 1.50)

แนวรับ 1710-1700 / แนวต้าน : 1720-1730 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

ยื่น กกต.ตรวจสอบ 21 สว. ปมถือหุ้นสื่อ – นายเรืองไกร อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่น กกต. ตรวจสอบสมาชิกภาพ สว. 21 คน กรณีถือหุ้นสื่อ ระบุมีการโอนหุ้นก่อนเพียง 10 วัน ก่อน คสช.แต่งตั้ง

ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของอังกฤษต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 – ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของอังกฤษขยายตัวลงลงสู่ระดับ 1.8% ในปี 61 ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่ทางสถาบัน EY ITEM Club คาดการขยายตัวของการใช้จ่ายจะลดลงแตะระดับ 1.6% ในปีนี้

ประเด็นติดตาม: 26 มิ.ย. – ประชุม กนง. / 27 มิ.ย. – US GDP 1Q19 / 1-2 ก.ค. – ประชุมโอเปก / 28-29 มิ.ย. – การประชุม G20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)