ผู้บัญชาการภาค 1 แถลงผลการกวาดล้างโจ๋แข่งจักรยานยนต์ยึดรถได้กว่า 200 คัน

ผู้บัญชาการภาค 1 แถลงผลการกวาดล้างโจ๋แข่งจักรยานยนต์ยึดรถได้กว่า 200 คัน

ผู้บัญชาการภาค 1 แถลงผลการกวาดล้างโจ๋แข่งจักรยานยนต์ยึดรถได้กว่า 200 คัน

เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 21 มิถุนายน 2562 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมข้าราชการตำรวจระดับหัวหน้าสถานีในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการกวดขันปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้าทำการตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และร้านแต่งรถจักรยานยนต์ ที่เป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดของปัญหาและที่ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน และตรวจจับกลุ่มวัยรุ่นที่ยึดถนนหลวงเป็นสถานที่ประลองความเร็วสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่สัญจรไปมาบนท้องถนนและประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

จากผลการปฎิบัติการในครั้งนี้สามารถยึดรถจักรยานยนต์ที่กระทำความผิดได้จำนวน 267 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชน จำนวน 23 ราย ผู้ใหญ่ 62 ราย รวม 75 ราย และทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะและเก็บตัวอย่าง DNA ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันแข่งขันรถในทางสาธารณะว่าผู้ที่ฝ่าฝืนออกมารวมกลุ่มในลักษณะที่จะนำไปสู่การแข่งรถในทางนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เทคโนโลยี ในการติดตามจนสามารถเก็บภาพผู้ที่ออกมารวมตัวแข่งรถ และดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล โดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมา มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการส่งตัวไปเข้าค่ายอบรม ตามยุทธวิธีของทหารเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ ส่วนผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ใหญ่ก็จะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้น

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ยังสามารถทลายแก๊งค์ลักรถจักรยานยนต์และนำมาขายให้กับนายหน้าตลาดมืดในราคาคันละ 10,000 -15,000 บาท เมื่อได้เงินมาก็จะแบ่งกันใช้ชีวิตประจำวันและเที่ยวเตร่ ได้ผู้ต้องหา 9 คน ซึ่งคนร้ายจะตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในหลายจังหวัดและในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งจังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร โดยตรวจยึดของกลางเป็นชิ้นส่วนและรถจักรยานยนต์ที่ร่วมกันก่อเหตุมาได้อีกจำนวนหลายคันโดยนายภาคิน หัวหน้าแก๊งได้เช่าอาคารพาณิชย์ ในย่านอำเภอพระประแดง เปิดเป็นร้านรับแต่งรถจักรยานยนต์เพื่อบังหน้า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์ )ในเวลากลางคืน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป