“ซัมซุง” กับความสำเร็จของโซลูชั่น “5จี” แบบครบวงจร

“ซัมซุง” กับความสำเร็จของโซลูชั่น “5จี” แบบครบวงจร

ศักยภาพของ 5จี นั้นจะไม่จำกัดเพียงแค่บนสมาร์ทโฟน แต่จะสามารถต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในอุตสาหกรรมทุกประเภท

การมาถึงของเทคโนโลยี 5จี หรือระบบการสื่อสารแบบไร้สายในยุคที่ 5 มีความคล้ายคลึงกับการเปิดตัว 4จี ในอดีต ที่ช่วยปลดล็อคและสร้างโอกาสมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น 5จี ที่มีความเร็วสูงขึ้นและความหน่วงลดลงจะส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดข้อได้เปรียบมากกว่าเมื่อเทียบกับระบบเดิม ดังนั้นเมื่อไรที่บริการ 5จี เกิดขึ้นจริงอย่างเต็มรูปแบบ ศักยภาพของ 5จี นั้นจะไม่จำกัดเพียงแค่บนสมาร์ทโฟน แต่จะสามารถต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในอุตสาหกรรมทุกประเภท

กว่า 35 ปีของการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก “ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์” ยังเป็นผู้บุกเบิกระบบ 5จี โดยมุ่งมั่นที่จะนำทุกองค์ประกอบของกระบวนการพัฒนารวมเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่การวิจัยถึงการพัฒนา ไม่เพียงในระดับมือถือ แต่ในระดับเครือข่ายทั่วโลก รวมถึงยังเป็นผู้สร้างมาตรฐานการส่งข้อมูลทางคลื่น 5จี ซึ่งได้รับการอนุมัติครั้งแรกในช่วงปลายปี 2560 ส่งผลให้ซัมซุงสามารถเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5จี ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเครื่องแรกของโลกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านม อีกทั้งยังมีบทบาทเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศสำหรับการเปลี่ยนผ่านจาก 3จี สู่ แอลทีอี และด้วยประสบการณ์ที่ไม่ได้จำกัดแค่โครงสร้างพื้นฐานนี้เองทำให้บริษัทพร้อมที่จะเป็นผู้นำการพัฒนา 5จี อย่างแท้จริง

ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านโซลูชั่น 5จี

ความท้าทายที่เกิดขึ้นสำหรับซัมซุงคือ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอุปกรณ์มือถือที่รองรับแถบความถี่สูงมาก่อน บริษัทจึงต้องมีการศึกษาเพื่อพัฒนาฮาร์ดแวร์ของกาแลคซี่ เอส 10 5จี ในแง่ของการสร้างโซลูชั่นที่รองรับแถบความถี่สูงเพื่อลดปัญหาสัญญาณอ่อน อันเป็นผลมาจากสิ่งกีดขวางทางกายภาพหรืออุปสรรคที่ปิดกั้นคลื่นความถี่ โดยเฉพาะเมื่อเจอกับวัตถุโลหะ เนื่องจากบริษัทได้สะสมประสบการณ์และองค์ความรู้ที่หลากหลายมาอย่างยาวนาน ทำให้รู้ถึงความต้องการและการใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคที่มักจะใช้งานอยู่เกือบตลอดเวลา จึงสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้ตัวเครื่องเชื่อมต่อสัญญาณ 5จี ได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุดสมกับเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมนี้อย่างแน่นอน

ความแตกต่างของเทคโนโลยีไร้สาย

การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีไร้สายถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุค 2จี ไปสู่ 3จี และ 4จี ซึ่งทำให้การสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยภาพ เสียง หรือวิดีโอสามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น และเทคโนโลยีใหม่อย่าง 5จี ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในขณะนี้จะมีความพิเศษในการรับ-ส่ง ข้อมูลเร็วขึ้นกว่าเทคโนโลยีก่อนหน้าถึงกว่า 10 เท่า อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าเนื่องจากสามารถรองรับปริมาณข้อมูลได้มากกว่าในช่วงเวลาเท่ากัน

ประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการมาถึงของ 5จี

เมื่อมีระบบ 5จี แบบครบวงจร ความสมบูรณ์ของแบนด์วิดธ์ในเครือข่ายจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งผ่านของข้อมูลมีความหน่วงต่ำสุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะเกิดผลดีต่อทุกอุตสาหกรรมในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยของรถยนต์สมาร์ทคาร์, เสถียรภาพของโรงงานอัจฉริยะ, ความแม่นยำของหุ่นยนต์อัจฉริยะในการใช้งานด้านการแพทย์, รวมถึงในด้านของเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ท ซิตี้ ระบบ 5จี จะช่วยยกระดับศักยภาพการเชื่อมต่อ พร้อมกันเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระบบแอลทีอี

สมาร์ทโฟน 5จี เครื่องแรกของโลก

เมื่อพูดถึงอุปกรณ์สำหรับ 5จี ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าซัมซุงได้พัฒนานวัตกรรมฮาร์ดแวร์ครั้งใหญ่เพื่อรองรับฮาร์ดแวร์ของสัญญาณแอลทีอี ทั้งหมด พร้อมกับเพิ่มชิ้นส่วนของระบบ 5จี โดยเฉพาะอย่างชิปโมเด็ม 5จี และชิป 5จี อาร์เอฟ ซึ่งจำเป็นต้องมีชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาดีไซน์ในแบบฉบับ Unibody ของเครื่อง กาแลคซี่เอาไว้ ส่งผลให้ ‘กาแลคซี่ เอส 10 5จี’ ยังคงไว้ด้วยดีไซน์เพรียวบางอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงยังได้ติดตั้งเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ซีพียู และแรมโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้เครื่องได้ยาวนานไม่เปลืองพลังงานจากแบตเตอร์รี่ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5จี เครื่องแรกของโลก ที่วางจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2019 ที่ผ่านมา

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังคงเป็นผู้นำอันดับ 1 ในด้านนวัตกรรมและโซลูชั่นสำหรับมือถือ ด้วยการนำสมาร์ทโฟน 5จี มาให้บริการเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จเป็นรายแรกของโลก และต่อจากนี้ซัมซุงยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจต่อไปเพื่อมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันได้อย่างแท้จริง