พม.จ่อตั้งศูนย์ระดับจังหวัด จับตาเข้มสูบบุหรี่ในบ้านทำคนป่วย

พม.จ่อตั้งศูนย์ระดับจังหวัด จับตาเข้มสูบบุหรี่ในบ้านทำคนป่วย

พม.ย้ำ "พิษบุหรี่" ทำคนในบ้านป่วย ถือว่าผิดกฎหมายจริง จ่อตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาครอบครัวระดับจังหวัด จับตาเข้ม เหล้า ยาเสพติด ยาสูบ

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.62 นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีการสูบบุหรี่ภายในบ้านถือเป็นความรุนแรงในครอบครัวเข้าข่ายผิดกฎหมาย ว่า พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. 2562 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ สาระสำคัญเพื่อแก้ไขป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัว นอกจากจะมีการระบุถึงการทำความรุนแรงทางกาย ตรงนี้ผิดกฎหมายอาญาอยู่แล้ว ก็ยังมีถ้อยคำว่า หรือการกระทำที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งตีความได้มากมาย เช่น สมมติพ่อดื่มเหล้าอาละวาดจนลูกไม่ได้นอนหลับพักผ่อน จนทำให้ป่วย การใช้งานเด็กมากเกินไปจนเป็นเหตุให้ป่วย และการสูบบหรี่ในบ้าน ซึ่งมีผลกระทบให้คนใกช้ชิดได้รับควันบุหรี่มือสอง และเกิดการเจ็บป่วย ทั้งหมดล้วนจัดเป็นความรุนแรง ถ้าคนข้างบ้านเห็นพฤติกรรมแบบนี้ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าทีเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบ และส่งให้แพทย์พิจารณาว่าเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดจากการกระทำของคนในบ้านหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่ามีข้อมูลจริงว่ามีผู้ป่วยจากพิษของบุหรี่ เช่น มะเร็งปอด ทั้งนี้หากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเกิดจากบุหรี่จริงก็จะมีการส่งฟ้องศาลเพื่อพิจารณา อาจจะเป็นการสั่งให้ปรับพฤติกรรม หรือจำกัดบริเวณการสูบเป็นต้น หากไม่ปฏิบัติตามก็จะมีการลงโทษที่แรงขึ้น

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องให้มีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นจริงๆก่อน แล้วถึงจะสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ ถือเป็นช่องว่างหรือไม่ นายเลิศปัญญา กล่าวว่า ต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยก่อน แต่จริงๆ กฎหมายนี้เป็นคุณ เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้คนในครอบครัวกระทำการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว และเนื่องจากเป็นเรื่องภายในครอบครัวเราเองคงไม่สามารถที่จะไปสั่งห้ามไม่ให้เขาสูบบุหรี่ในบ้านตัวเองได้ จึงไม่น่าจะเป็นลักษณะของการรุกเข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม หากทางเจ้าหน้าที่พบเห็นการกระทำที่เสี่ยงเช่นนี้สามารถเข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจให้เห็นถึงอันตรายทีจะเกิดขึ้น และให้ความรู้เรื่องการปรับพฤติกรรมได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คนในบ้านเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ และแพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเกิดจากบุหรี่จริง ก็จะสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้

"หลังจากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ส.ค. นี้ จะมีการตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว โดยปรับการทำงานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเข้ามาทำตรงนี้ โดยมีการวางแผนการทำงานร่วมกันในระดับจังหวัด ดูแล เข้มงวดทั้งเรื่องของสุรา ยาสูบ ยาเสพติด ในพื้นที่ด้วย" นายเลิศปัญญา กล่าว