'ปตท.สผ.'ประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย'โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน'

'ปตท.สผ.'ประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย'โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน'

ปตท.สผ.ประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน กำลังผลิตรวม 12.88 ล้านตันต่อปี ปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวระยะยาวรอง 11.1 ล้านตันต่อปี คาดเริ่มผลิตในปี2567

นาย พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือPTTEP แจ้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัท พีทีทีอีพี โมซัมบิก แอเรีย 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ และมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 8.5
ในโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน (โครงการฯ) ได้ร่วมกับกลุ่มผู้ร่วมทุน ประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในการพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวบนบกสำหรับ 2 สายการผลิตแรก ในแหล่งก๊าซธรรมชาติ Golfinho Atum ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่ง Area 1 สาธารณรัฐโมซัมบิก (โมซัมบิก)


โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน นับเป็นโรงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวบนบกแห่งแรกของโมซัมบิก จะเริ่มผลิตจาก 2 สายการผลิตแรกด้วยกำลังการผลิตรวม 12.88 ล้านตันต่อปี ซึ่งในปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวระยะยาวรองรับประมาณ 11.1 ล้านตันต่อปี คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตทั้งหมดโดยมีผู้ซื้อหลักจากทั้งทวีปเอเชียและยุโรป นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้รับอนุมัติจากรัฐบาลโมซัมบิก ให้เป็นผู้ดำเนินการ (First Mover) ก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะใช้ร่วมกัน (Shared facilities)กับโครงการแอเรีย โฟร์ อาทิ ท่าเรือขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้าง (Materials Offioading Facility: MOF) และท่าเรือขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Marine Terminal)

ทั้งนี้ โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน มีการค้นพบปริมาณทรัพยากรก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะผลิตได้ประมาณ 75 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายใน โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของปตท.สผ. ในการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ 'Execute ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตและปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับบริษัท โดยคาดว่าโครงการนี้จะสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้ว (ProvedReserves) ให้กับ ปตท.สผ. ตามสัดส่วนการลงทุน ประมาณ 140 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในปี 2567