ครม.รับทราบแนวโน้มราคายางพารา-ปาล์มน้ำมันพุ่ง

ครม.รับทราบแนวโน้มราคายางพารา-ปาล์มน้ำมันพุ่ง

ครม.รับทราบแนวโน้มราคายางพารา-ปาล์มน้ำมันพุ่ง ชี้เป็นผลงานรัฐบาลชุดนี้ดำเนินนโยบาย-มาตรการต่อเนื่อง

นายณัฐพร จารุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่าเปิดเผยว่าที่ประชุม เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (18 มิ.ย.)ได้มีการหารือถึงแนวโน้มราคายางพารา และราคาปาล์มน้ำมันภายในประเทศ โดย ปัจจุบันราคายางพาราและปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยในส่วนของราคายางพาราได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 60.5 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีการใช้ในประเทศอยู่ประมาณ 5 แสนตันต่อปี เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8 แสนตันต่อปี ขณะที่การบริหารจัดการตามนโยบายที่เพิ่มบทบาทของสถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ชุมชนที่เข้ามารับซื้อยางพาราจากเกษตรกรเพิ่มขึ้นซึ่งต่างจากในอดีตที่การรับซื้อยางอยู่ในมือของผู้ค้ายางรายใหญ่เท่านั้นซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการจากในอดีตทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้

ส่วนราคาปาล์มน้ำมันในประเทศก็มีราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นโดยผลปาล์มดิบราคาปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.3 – 3.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่น้ำมันปาล์ม (CPO) ราคาอยู่ที่ 19.75 – 20 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายที่สนับสนุนให้มีการใช้น้ำมันปาล์มมากขึ้นทั้งการนำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มเป็นไบโอดีเซลมากขึ้น

“แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มยังสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีกเนื่องจากเมื่อดูจากปริมาณการนำน้ำมันปาล์มดิบที่ กฟผ.นำมาผลิตไฟฟ้าในล็อตที่ 2 ซึ่งมีการซื้อไปประมาณ 6 หมื่นตันจากเป้าหมายประมาณ 2 แสนตัน แต่ทำให้ราคาปาล์มปรับขึ้นไปได้พอสมควรซึ่งหากคิดตามเปอร์เซนต์แนวโน้มที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่” นายณัฐพร กล่าว