สกศ.เชื่อมมาตรฐานสถานศึกษาพัฒนาเด็กปฐมวัย

สกศ.เชื่อมมาตรฐานสถานศึกษาพัฒนาเด็กปฐมวัย

สกศ. โรดโชว์หาดใหญ่ ต่อยอดเชื่อมโยงมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ-มาตรฐานการศึกษาชาติ-ประกันคุณภาพการศึกษา

วันนี้ (17 มิ.ย.62) ที่โรงแรมหรรษา เจบี หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ "แนวทางการดำเนินการตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ" ได้รับความสนใจจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนหน่วยงานพัฒนาเด็กปฐมวัยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 250 คน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการดำเนินงานมาตรฐานเดียวกัน 


นางวัฒนาพร กล่าวว่าสกศ. ขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินการตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ โดยเดินหน้าทำความเข้าใจกับหน่วยงานปฏิบัติสอดคล้องกับสร้างคนแต่ละช่วงชั้นตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ.2561 ที่มีความเชื่อมโยงกับการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและตามความถนัดของผู้เรียนที่สอดรับกับกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดว่า สถานศึกษาเป็นผู้จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา (การประเมินตนเอง) โดยการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาของแต่ละระดับและประเภทการศึกษา พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาสถานศึกษาเพื่อนำไปสู่กรอบผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ ตามบริบท ระดับและประเภทการศึกษาของสถานศึกษา และให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ทำหน้าที่ประเมินภายนอกตามรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาและประเด็นอื่น ๆ ผ่านหน่วยงานต้นสังกัด โดยุม่งหมายให้เป็นการประเมินเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ 3 ด้าน ที่เหมาะสมตามช่วงวัย มีความต่อเนื่อง เชื่อมโยง และสะสมตั้งแต่ระดับการศึกษาปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา มุ่งสร้างคุณภาพผู้เรียนยุค 4.0


นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ กล่าวด้วยว่า ความเชื่อมโยงกันระหว่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มาตรฐานการศึกษาของชาติ และกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา จึงมีความสอดคล้องและต่อเนื่องกันในการดำเนินงาน สกศ. ในฐานะเจ้าภาพกลางด้านการพัฒนาปฐมวัย จึงเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้บริหารสถานศึกษา ครู ศึกษานิเทศก์ ผู้อำนวยเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ได้รับทราบมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติที่เป็นมาตรฐานกลางของประเทศใช้กับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกแห่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดบริการ ดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้ง 4 หน่วยงานหลัก พม. มท. สธ. และ ศธ. เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา สอดรับตามพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 และเป็นไปตามเจตจำนงค์ที่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560


ทั้งนี้ สกศ. จัดการประชุมวิชาการ "แนวทางการดำเนินการตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวันแห่งชาติ" ระดับภูมิภาคครั้งสุดท้าย ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปลายกรกฎาคม 2562



ด้าน นพ.ธีรชัย บุญยะลีพรรณ รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ กรมอนามัย วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า คู่มือมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะการบูรณาการพัฒนาเด็กปฐมวัยของทั้ง พม. มท. สธ. ศธ. และ อปท. เพื่อดำเนินงานตามมาตรฐานกลางของประเทศตามที่ระบุไว้ในคู่มือมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ฯ


ส่วนการพัฒนาช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุดคือระหว่าง แรกเกิด - 2 ปี เป็นโอกาสทองของช่วงการเรียนรู้เด็กเล็ก การพัฒนาเด็กช่วงดังกล่าวจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ได้รับผลตอบแทนสูง สร้างความต่อเนื่องและเชื่อมโยงการพัฒนาประเทศด้วยการสร้างคนรุ่นใหม่ ทุกหน่วยงานจึงต้องมองอย่างรอบด้านในการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบระดับสูงของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย การจัดกระบวนการสอนที่เหมาะสมทั้งทางร่างกาย จิตใจ นิสัย และอารมณ์ที่เหมาะสมกับสภาวะของเด็กเล็กจึงมีความสำคัญมากโดยใช้คู่มือมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ฯ เป็นเข็มทิศในการดำเนินงานที่มีมาตรฐานเดียวทั้งประเทศ


สำหรับ สาระสำคัญของคู่มือมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ฯ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562 เห็นชอบร่างมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ตามที่ ศธ. เสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการดูแลพัฒนาและจัดการศึกษา และการดำเนินงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัดที่ดูแลเด็กในเวลากลางวัน ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1


โดยกำหนดมาตรฐาน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการบริหารจัดการสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย 2.ด้านครู/ผู้ดูแลเด็กให้การดูแลและจัดประสบการณ์ การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย และ 3.ด้านคุณภาพของเด็กปฐมวัย แบ่งเป็นเด็กแรกเกิด - อายุ 2 ปี และเด็กอายุ 3 - 6 ปี หรือช่วงก่อนเข้าศึกษาระดับ ป.1 ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเด็กและควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและมีความต่อเนื่องสอดคล้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 เป็นไปตามเจตจำนงค์ที่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และสามารถนำไปใช้ประเมินการดำเนินงานของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในทุกสังกัด ประมาณกว่า 53,335 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดบริการและความต่อเนื่องของการพัฒนาเด็กปฐมวัย