คาดตลาดแกว่งตัวก่อนทราบผลการประชุมเฟด

คาดตลาดแกว่งตัวก่อนทราบผลการประชุมเฟด

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ หรือ USTR เตรียมจัดทำประชาพิจารณ์ (public hearing)

เพื่อรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มผู้ประกอบการเกี่ยวกับแผนปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยจะเริ่มขึ้นวันนี้ก่อนสิ้นสุดในวันที่ 25 มิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้ทรัมป์ไม่สามารถจัดเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ได้จนกว่าจะหลังวันที่ 2 ก.ค. เป็นต้นไป เบื้องต้น กรณีหากมีการเพิ่มอัตราเก็บภาษีจริงเราประเมินว่าอาจไม่สูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ฯ ตามที่ทรัมป์ได้ขู่ไว้ก่อนหน้า ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อจิตวิทยาตลาดในเดือน ก.ค.

ตลาดรอฟังแถลงการณ์เฟดการประชุมวันที่ 19 มิ.ย. นี้. เราประเมินทิศทางตลาดในช่วงก่อนถึงการประชุมเฟดแกว่งตัวในกรอบ 1663-1680 จุด เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการส่งสัญญาณนโยบายดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ แม้ตลาดจะให้น้ำหนักความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนหน้าสูงถึง 94% แต่ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นตอบรับความคาดหวังดังกล่าวมากแล้ว เราแนะให้เพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากมีโอกาสที่เฟดอาจเปิดหน้าไพ่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด

ทรัมป์ ประกาศตัดสิทธิ์ GSP ทั้งหมดของอินเดีย (ไม่ใช่ข่าวใหม่). ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจอินเดียมีอัตราการเติบโตที่สูงเกินเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิดังกล่าวต่อ ส่งผลให้อินเดียเตรียมนัดเจรจาข้อตกลงกับสหรัฐฯ ก่อนขู่ตอบโต้ขึ้นภาษีหากเจรจาล่ม ทั้งนี้ เราคาดว่าอินเดียอาจไม่ใช่ประเทศเดียวที่จะถูกยกเลิกสิทธิ์ GSP โดยตุรกีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถูกพิจารณาด้วยเช่นกันนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ไทยได้รับสิทธิ GSP จากสหรัฐเป็นมูลค่ากว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ (เป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย)

ยังคงแนะนำให้ระวังแรงทำกำไรในหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก โดยหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่ราคาปรับขึ้นมากสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61 ได้แก่ KTC (130.08%), CKP (67.64%), EGCO (53.46%), BGRIM (48.65%), BEM (53.03%), BTS (50.57%), MTC (45.96%), HMPRO (42.54%), AEONTS (34.98%)

ขณะที่ เน้นเก็งกำไรรายตัวในหุ้นกลุ่มที่ราคายังไม่ขึ้นมาเยอะและมีปัจจัยบวกสนับสนุน อาทิ กลุ่มพลังงาน, บริโภคภายในประเทศ, นิคมฯ, รวมถึง หุ้นปลอดภัยอื่นๆ เรายังแนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่องจากวันศุกร์ (PTTEP, PTTGC) ตามราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากประเด็นความตึงเครียดในตะวันออกกลาง  / กลุ่มปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (60.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15) //ระวังกลุ่มท่องเที่ยว ตัวเลขนักท่องเที่ยวพ.ค.ชะลอตัวลง

ภาพรวมกลยุทธ์: หลีกเลี่ยงหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อยและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง ยังรักษาภาพเชิงบวกตราบใดที่ดัชนีปรับตัวไม่หลุดต่ำกว่า 1645 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ EASTW, CPF* เก็งกำไร PTTEP* (เป้า 133 ตัดขาดทุน 124), PTTGC* (เป้า 67 ตัดขาดทุน 59)

แนวรับ 1663 / แนวต้าน : 1680 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขดัชนีค้าปลีกเดือน พ.ค. โต 0.5% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 0.6% อย่างไรก็ตาม ได้ปรับเพิ่มตัวเลขดัชนีค้าปลีกเดือนก่อนเป็นโต 0.3% จากเดิมที่ 0.2%

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ชะลอตัว – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 97.9 จากเดือนก่อนหน้าที่ 100 จากผลกระทบของข้อพิพาททางการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง

ประเด็นติดตาม: 18 มิ.ย. – ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซน เดือน พ.ค. / U.S. building permit, 20 มิ.ย. – FOMC meeting / Initial Jobless claims, 21 มิ.ย. – U.S. manufacturing PMI เดือน มิ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)