ยังเน้นเก็งกำไรรายตัว และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก

ยังเน้นเก็งกำไรรายตัว และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก

ราคาน้ำมันรีบาวน์แรงหลังมีข่าวเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำ ถูกโจมตีที่ช่องแคบฮอร์มุซ

ซึ่งเข้ามาช่วยหักล้างประเด็นกดดันจากการปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบปี 62 ของ EIA และ OPEC รวมถึงความเสี่ยงของสงครามการค้าในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากน้ำมันดิบกว่า 30% ของโลกถูกส่งผ่านเส้นทางดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นเพียงปัจจัยกระทบระยะสั้น ขณะที่ ภาพระยะยาวแนะรอประเมินจากผลการประชุม OPEC ในวันที่ 3-4 ก.ค.นี้

เรายังคงมองหุ้นเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่น่าสนใจแม้เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งปีหลังอย่างที่คาดก็ตาม. โดยผลจากการลดขนาดงบดุลของเฟดยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มลดลงได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะไปส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้นเทียบกับพันธบัตรถ่างกว้างมากขึ้น (ล่าสุดอยู่ที่ 3.50% หรือ +1SD) และทำให้หุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นในเชิงเปรียบเทียบ

อย่างไรก็ตาม ภาพระยะสั้นยังเสี่ยงต่อการถูกแรงขายทำกำไรกดดันบริเวณแนวต้านที่ 1680 จุด. เนื่องจากตลาดยังขาดน้ำหนักของปัจจัยบวกที่เพียงพอและต้องการความชัดเจนที่มากขึ้นจากหลายประเด็น อาทิ ผลการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า, ข้อตกลงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit), รวมถึง การเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ วันที่ 28-29 มิ.ย.

เราจึงยังคงแนะนำให้ระวังแรงทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมามาก โดยหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่ราคาปรับขึ้นมากสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61 ได้แก่ KTC (132.87%), CKP (63.89%), EGCO (52.97%), BGRIM (48.65%), BEM (50.37%), BTS (49.29%), MTC (47.26%), HMPRO *(42.54%), AEONTS (34.36%)

ขณะที่ เน้นเก็งกำไรรายตัวในหุ้นกลุ่มที่ราคายังไม่ขึ้นมาเยอะและมีปัจจัยบวกสนับสนุน อาทิ กลุ่มบริโภคภายในประเทศ, นิคมฯ, รวมถึง หุ้นปลอดภัยอื่นๆ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ WHART, FTREIT, EGATIF, EASTW, GUNKUL*, SSP*, AQUA* / ปิโตรเคมี โรงกลั่น ลงมาจนต่ำกว่าหรือใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี อาทิ TOP (60.82), PTTGC (66.94), IRPC (4.29), BCP (31.15) โดยเฉพาะ TOP และ PTTGC //ระวังกลุ่มท่องเที่ยว ตัวเลขนักท่องเที่ยวพ.ค.ชะลอตัวลง

ภาพรวมกลยุทธ์: หลีกเลี่ยงหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามาก การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อยและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง ยังรักษาภาพเชิงบวกตราบใดที่ดัชนีปรับตัวไม่หลุดต่ำกว่า 1645 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ EASTW, CPF* เก็งกำไร PTTEP* (เป้า 133 ตัดขาดทุน 124), TOG* (เป้า 6.35 ตัดขาดทุน 5.25)

แนวรับ 1663 / แนวต้าน : 1680 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ค่าเงินเหรียญฯยังขาดปัจจัยหนุนในระยะสั้น – ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3 พันราย สู่ระดับ 2.22 แสนรายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่มองลดลงสู่ระดับ 2.16 แสนราย ซึ่งตอกย้ำตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขจ้างงานเดือน พ.ค.ที่ชะลอตัวมากกว่าคาด

ความเสี่ยงต่อการเกิด No deal Brexit ยังคงค่อนข้างสูง – สมาชิกรัฐสภาของอังกฤษลงมติ 309-298 เสียง คว่ำญัตติของพรรคฝ่ายค้านในการเสนอกฎหมายป้องกัน No-deal Brexit สร้างความเสี่ยงต่อการเกิด No-deal Brexit หลังวันที่ 31 ต.ค. เพิ่มขึ้น

OPEC ลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบตาม IEA – กลุ่มผู้ผลิต OPEC ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบปี 62 ลงสู่ระดับ +1.14 ล้านรบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้าที่  

ประเด็นติดตาม: 14 มิ.ย. – ตัวเลขดัชนีค้าปลีกจีน และ Industrial production เดือน พ.ค. / IEA monthly report / ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)