'ศาลแพ่ง' ลุยพัฒนานวัตกรรมพิจารณาคดีผู้บริโภค ยุค D-Court

'ศาลแพ่ง' ลุยพัฒนานวัตกรรมพิจารณาคดีผู้บริโภค ยุค D-Court

"อธ.ศาลแพ่ง" ปรับโฉม ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ อำนวยความสะดวก ปชช.ฟ้องคดีผู้บริโภครวดเร็ว-ประหยัด ตามแผนพัฒนา D-Court ชูหลัก Faster & Better Service

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.62 ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 12 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ร่วมเป็นประธาน พิธีเปิด "นวัตกรรมการพิจารณาคดีในยุค Digital Court" ในการให้บริการยื่นคำฟ้อง การพิจารณาและพิพากษาคดีทางระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับคดีผู้บริโภค ซึ่งมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมบังคับคดี, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, สภาทนายความฯ, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย, สำนักงานเขต ตลอดจนทนายความจากสำนักงานต่างๆ จำนวน 233 คน เข้าร่วม

โดยนายโอภาส อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ.2561-2564 มุ่งเน้นการบูรณาการเครือข่ายด้านการยุติธรรมทั้งภายในและระหว่างประเทศ และแผนพัฒนาดิจิทัลศาลยุติธรรม พ.ศ.2562-2564 ยกระดับงานอำนวยความยุติธรรม ให้ศาลยุติธรรมมีระบบสารสนเทศที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานและให้บริการประชาชนอย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ตามเป้าหมายประจำปี พ.ศ.2562 Faster & Better Service ซึ่งการดำเนินการต่างๆ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นในกระบวนการยุติธรรม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและสร้างความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรม อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง กล่าวอีกว่า จากการที่ศาลยุติธรรมวางเป้าหมายการพัฒนาให้เป็น D-Court (Digital Court) ในปี พ.ศ.2563 ศาลแพ่งได้ปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นศาลยุติธรรมดิจิทัล โดยเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนได้รับความสะดวกด้วยการนำเทคโนโลยีและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ สนับสนุนการทำงาน การพิจารณาและพิพากษาคดี เช่น การพัฒนาระบบโปรแกรม Mini e-court สำหรับคดีผู้บริโภค การยื่นคำร้องและไต่สวนคดีร้องขอจัดตั้งผู้จัดการมรดกทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นตัวอย่างของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัล ที่ทำให้ประชาชนได้รับบริการบนมาตรฐานสากล และเพื่อให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนางานศาลแพ่ง และเข้าใจถึงปัญหาทางปฏิบัติในการดำเนินงานระหว่างกัน ก็ให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมของศาลแพ่ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ด้วย เพื่อสร้างความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการมุ่งแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายและระบบกระบวนการยุติธรรม