มีโอกาสหยุดพัก

มีโอกาสหยุดพัก

SET Index วานนี้ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยปัจจัยสนับสนุนหลักยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง

โดยวานนี้ซื้อถึง 2,910 ลบ. โดยกลุ่ม Big Cap. ที่หนุนตลาด ได้แก่ PTT HMPRO และ CPF ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,670.41 จุด (+5.68 จุด) Volume 5.0 หมื่นลบ. จาก Foreign +2,910.31 ลบ. TFEX Net +15,167 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,501 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ราคาน้ำมัน WTI +1 เซนต์ ปิด $53.27 ต่อบาร์เรลหลัง EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบและกำลังผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯในปี 2019

+สหรัฐเผยดัชนี PPI ในเดือนพ.ค. +0.1%MoM +2.3%YoY สอดคล้องคาดการณ์

+ FedWatch บ่งชี้ว่านลท.คาดการณ์ว่า FED มีโอกาส 79% จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดใน ก.ค. และมีโอกาส 90% จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในก.ย. และโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งใน ธ.ค.

+คาดจะเห็นโฉมหน้าครม.ชุดใหม่เร็วๆนึ้หลังวานนี้มีพิธีโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกฯ

+แบงก์ใหญ่คงเป้าสินเชื่อปีนี้เติบโต 5-7% หวังรัฐบาลใหม่หนุนการลงทุนกระตุ้นการเบิกจ่าย สร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโตต่อ

-ดาวโจนส์ลดลง 14.17 จุด -0.05% กังวลข้อพิพาททางการค้าสหรัฐกับจีนที่อาจยืดเยื้อหลังทรัมป์ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม และมีแรงขายทำไรหลัง DJIA บวก 6 วันติดกัน

+/-อดีตที่ปรึกษาทางการค้าของปธน.ทรัมป์ฟันธงสหรัฐ-จีนยังไม่บรรลุข้อตกลงการค้าในการประชุม G20 ส่วนรมว.พาณิชย์สหรัฐคาดจะบรรลุข้อตกลงการค้าในที่สุด

+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 9.8 พันลบ. ค่าเงินบาท 31.28 บาท/US

*จับตาครม.ชุดใหม่ / สหรัฐเปิดเผย อัตราเงินเฟ้อและสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนคงจะไม่ได้ข้อสรุปในปลายเดือนนี้หลังจบการประชุม G20  ขณะที่ปัจจัยบวกจากการเมืองในประเทศมีน้ำหนักน้อยเนื่องจากยังไม่เห็นหน้าตาครม.ชุดใหม่    คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,659-1,681 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

         หุ้นเข้าคำนวณดัชนี FTSE ที่น่าสนใจ : OSP, NER, PR9 มีผล 21 มิ.ย.

         TFFIF, EGATIF, COM7 เข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มีผล24 มิ.ย.

         หุ้น Defensive : กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, SPA) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)

         หุ้นน่าลงทุน Theme EEC play : AMATA, WHA, WHAUP, WHART, EASTW, ATP30, ORI

         หุ้นติดโผ SET50 : SAWAD, OSP, VGI   หุ้นติดโผ SET100 : OSP, VGI, JAS, JMT, ITD, THG, BA, S (ที่มา ข่าวหุ้น)

หุ้นรายงานพิเศษ

AUCT Company visit (ราคาปิด 6.60 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 8.00 บาท)

ผู้บริหารได้ให้ภาพแนวโน้ม 2Q62 ที่ดูสดใสเติบโตสูง YoY มีปัจจัยบวกจาก
1) ปริมาณรถยนต์ที่ไหลเข้าตลาดการประมูลอย่างต่อเนื่องเติบโตสูง YoY หลังจากที่ %NPL ของสถาบันการเงินยังคงอยู่ในระดับสูงที่ราว 2%
ขณะที่ 2) ฝั่งกำลังซื้อยังคงแข็งแกร่ง มี %Success Rate ของจำนวนรถจบการประมูลที่ 80-90% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการอาจอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจาก 2Q62 มีวันหยุดยาว ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูฝน

แนวโน้มทั้งปี 62 มีลุ้นว่ากำไรจะทำ New High หลังจากที่สถาบันการเงินทั้งรายเดิมและใหม่ทยอยส่งรถเข้าตลาดประมูลเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน นอกจากนี้ ช่วง 2H62 บริษัทฯเตรียมออก Product ใหม่ ช่วยต่อยอด New-S-Curve โดยการรับเป็นสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) มีการคิดอัตราค่าบริการราว 200 บาท/คัน ซึ่งเราคาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการดังกล่าวในปีนี้ on top อีกราว 1.5-2 ลบ. ซึ่งจะเป็นอัพไซต์จากประมาณการที่เราทำไว้ ทั้งนี้ เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปี 62 ราว 203 ลบ. +19% YoY

หุ้นมีข่าว   

·         TVD (ราคาปิด 1.26) แตกไลน์สู่ธุรกิจรับจำหน่ายคอนเทนต์ในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม และเมียนมา หลังจากเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทสารคดีและซีรีส์ละครอินเดียจำนวน 60-70 เรื่อง JKN (ราคาปิด 8.15 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 10.00 ) เป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี และได้รับสิทธิ์เพิ่มเติมให้บริษัทสามารถนำคอนเทนต์บางส่วนที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศดังกล่าว  เบื้องต้นสามารถปิดการขายคอนเทนต์
สารคดีและซีรีส์ละครอินเดียจากลูกค้าในกัมพูชาและเวียดนามรวมมูลค่า 40 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น, มติชน)

ความเห็น : คาดว่าการแตกไลน์สู่ธุรกิจจำหน่ายคอนเทนต์จะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตของรายได้ในปีนี้ของ TVD  โดยคาดจะช่วยหนุนผลประกอบการในงวดครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ 1Q62 TVD รายงานกำไรซึ่งคาดว่าจะต่ำสุดรายไดรมาสของปีนี้ที่ 5.9 ล้านบาท -58%YoY  และข่าวนี้เป็นบวกกับ JKN เนื่องจากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายคอนเทนต์ของ JKN จะทำให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ราว 20% สู่ 1.7 พันลบ. และเราคาดกำไรสุทธิปี 62 ที่ราว 300 ลบ. +32%YoY

·          WORK (ราคาปิด 23.70 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 23.69) ลุ้นงบครึ่งปีหลังโตโดดเด่น ขานรับเตรียมปรับผังรายการครั้งใหญ่ จ่อเปิดใหม่ 10 รายการ โกยเรตติ้ง-ดูดเม็ดเงินโฆษณา ล่าสุดเปิดรายการ “10 Fight 10” โชว์ยอดดูไลฟ์สดสูง 52,000 คน (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         TPCH (ราคาปิด 10.60 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 14.40) คาดผลงานไตรมาส 2/62 เด้ง! บุ๊กรายได้ขายไฟฟ้าเต็ม 100% มั่นใจปีนี้รายได้และกำไรนิวไฮ เหตุไตรมาส 4/62 จ่อ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มอีก 42.80 MW พร้อมหั่นเป้า PPA เหลือ 200 MW ในปี 63 เหตุแผน PDP ไม่เอื้ออำนวย (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·         ALL (ราคาปิด 4.20) ควักงบลงทุน 600 ล้านบาท ลุยธุรกิจ Shopping Mall ใจกลางเมืองชลบุรี เพิ่มฐานรายได้ประจำคาดโกยรายได้ 200 ล้านบาทต่อปี หวังติด Top of Mind ของลูกค้าเมืองชลบุรี พื้นที่ใกล้เคียง และเขตระเบียงเศรษฐกิจ EEC ผบห.ตั้งเป้ารายได้โตเท่าตัวใน 3 ปีข้างหน้า จากปีนี้คาดรายได้แตะ 4,500 ล้านบาท หลังขยายธุรกิจครบวงจร หนุนมาร์เก็ตแคปปี 2564 แตะ 1 หมื่นล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·         ECL (ราคาปิด 1.60) หวังครึ่งปีหลังสินเชื่อเติบโต  ทั้งปียังคงเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 4.2 พันล้านบาท คุม NPL ปีนี้แตะ 3.8% ขยายสินเชื่ออสังหา พร้อมสนใจลุยธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน (ที่มา : ทันหุ้น)

·         PSTC (ราคาปิด 0.64 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 0.65) ฉายภาพครึ่งปีหลังสดใส เตรียมเข้าประมูลโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร เฟสแรกราว 45 เมกะวัตต์ ฟากผู้บริหารมั่นใจรายได้โต 20% เชื่อทุกธุรกิจยังไปได้สวย อวดแบ็กล็อกธุรกิจติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า 900 ล้านบาท จ่อบุ๊กเข้ากระเป๋าปีนี้ทั้งหมด(ที่มา : ทันหุ้น)

·         ALLA (ราคา 1.37) ซุ่มผนึกพันธมิตรฮุบงานใหญ่ Warehouse แถมลุยชิงงานใหม่ทั้งในไทย-ต่างประเทศกว่า 600 ล้านบาท เชื่อคว้างานไม่ต่ำกว่า 50% หนุน Backlog ทำนิวไฮทุกไตรมาส แย้มงบไตรมาส 2/62 พุ่งกระฉูด เหตุเริ่มบุ๊กงาน CPALL ปูพรมทั้งปี 62 ฟันรายได้นิวไฮโต 15% (ที่มา มิติหุ้น)

·         DEMCO (ราคาปิด 3.20) แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะต่ำกว่าในช่วงไตรมาส 1/62 เนื่องจากจะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษในส่วนของค่าเสียโอกาสการขายไฟฟ้า จากการหยุดปรับปรุงฐานกังหันลม (Loss of production) ทั้งหมด 16 ฐาน เต็มไตรมาส ซึ่งมากกว่าในไตรมาส 1/62 ที่มีการบันทึกค่าเสียหายในการซ่อมเพียง 10 ฐาน  ปีนี้บริษัทยังคงเน้นซ่อมฐานกังหันลมที่เหลือจากทั้งหมด 26 ฐานปรับปรุงแล้วเสร็จ 10 ฐาน คาดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ตามเป้าหมายที่วางไว้ และจะทำให้ภาพรวมธุรกิจในปี 63 กลับมาสู่ภาวะปกติ (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)