นายกฯย้ำ 4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ เพื่อประสิทธิภาพ มั่นคง และยั่งยืน

นายกฯย้ำ 4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ เพื่อประสิทธิภาพ มั่นคง และยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีย้ำ 4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ เพื่อประสิทธิภาพ มั่นคง และยั่งยืน

วันนี้ (12 มิถุนายน 62 ) เวลา 09.00 น. ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานโครงการสร้างการรับรู้การบริหารจัดการน้ำของประเทศ ฤดูฝน ปี พ.ศ 2562   พร้อมด้วยพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย โดยมี คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทย กองทัพไทย รัฐวิสาหกิจ เครือข่ายภาคประชาชน สถาบันการศึกษา องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมกว่า 1000 คน

นายกฯย้ำ 4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ เพื่อประสิทธิภาพ มั่นคง และยั่งยืน


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานและมอบนโยบายการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ความสำคัญตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำมาโดยตลอด โดยได้มีการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากในการแก้ไขปัญหาและจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ได้แก่ 1) การจัดการเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคให้กับหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการเกือบครบทุกหมู่บ้าน 2) การสร้างความมั่นคงของน้ำในภาคการผลิต เพื่อให้ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมมีแหล่งน้ำต้นทุนในการจัดการ ได้ดำเนินการก่อสร้างแหล่งน้ำระบบกระจายน้ำใหม่ พัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำพื้นที่เกษตรน้ำฝน เพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเดิม และพัฒนาแหล่งน้ำ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน 4.3 ล้านครัวเรือน 3) การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัยในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยได้ดำเนินการปรับปรุงทางน้ำและแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ ป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมือง 4) การบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการนำศาสตร์ของพระราชามาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ

นายกฯย้ำ 4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ เพื่อประสิทธิภาพ มั่นคง และยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อการผลิตในภาคการเกษตร ความมั่นคงด้านน้ำและอาหาร เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ส่งผลต่อเนื่องไปถึงการผลิตและการส่งออกสินค้าเกษตร รัฐบาลได้ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว จึงมุ่งมั่นให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง และยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี  ซึ่งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศในอนาคตนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดำเนินการที่จริงจังและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนและความมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน และดำเนินการต่าง ๆ โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมทั้งต้องมีการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ให้กับประชาชนได้รับทราบถึงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ผ่านมา และสร้างความเข้าใจในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนนี้อย่างทั่วถึง
 
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่จัดงานในวันนี้ขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ให้ประชาชนและทุกภาคส่วน ได้เข้าใจสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

โดยก่อนนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ การจำลองและสาธิตการปฏิบัติการจริงของศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ และการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมจาก 13 หน่วยงานด้านน้ำ อาทิเช่น กรมทรัพยากรน้ำ สำนักระบายน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ฯ โดยแต่ละนิทรรศการ พร้อมชื่นชมการบูรณาการการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ แบ่งเป็นเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ รวมไปถึงการให้ชุมชนและประชนาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นจิตอาสา อาชีวะศึกษา ใช้เทคโนโลยีการติดตาม ตรวจสอบ อย่างทันท่วงที